ถึงแม้ในปัจจุบันองค์กรต่างๆ จะสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้แก้ไขปัญหาภายในบริษัทและปัญหาที่เกิดกับตัวลูกค้าได้ แต่การที่เราจะสามารถออกแบบแนวทางเแก้ไขปัญหาจนนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ได้นั้น การปลูกฝังแนวคิดว่าด้วยเรื่องของการแก้ไขปัญหาโดยเอาผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางหรือ Design Thinking ถือว่าเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการทุกคนสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างเป็นระบบ
สำหรับใครที่มีคำถามว่า
Design Thinking คืออะไร? และแนวคิดดังกล่าวจะช่วยยกระดับองค์กรของคุณได้ด้วยวิธีไหน? ขอบอกก่อนเลยว่าคุณมาถูกที่แล้ว เพราะวันนี้เราจะมาบอกตอบทุกคำถามคาใจของคุณกัน
Design Thinking คืออะไร?
ถ้าแปลเป็นภาษาไทย Design Thinking จะมีความหมายเท่ากับการคิดเชิงออกแบบ พอถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยกันกว่าการออกแบบที่ว่าหมายถึงการออกแบบเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นรูปธรรมเพียงอย่างเดียวหรือไม่ ซึ่งเราต้องขออนุญาตตอบกันตรงนี้ก่อนเลยว่าไม่ใช่ เพราะอีกหนึ่งความหมายของ Design Thinking คือกระบวนการคิดเพื่อแก้ไขปัญหาที่กำหนดให้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง โดยจุดเด่นของวิธีคิดแบบนี้ได้แก่การเปิดโอกาสให้ผู้สร้างสรรค์กลไกแก้ไขปัญหาเข้าใจถึงที่มาที่ไปของปัญหาจนนำไปสู่การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ในท้ายที่สุด
การนำ Design Thinking มาปรับใช้จะช่วยองค์กรในเรื่องไหนได้บ้าง?
เนื่องจากDesign Thinking คือหลักแนวคิด ดังนั้นผู้ที่จะได้ผลประโยชน์จากการนำเรื่องดังกล่าวมาปรับใช้คงหนีไม่พ้นพนักงานในองค์กร โดยประโยชน์ที่ทรัพยากรมนุษย์ของบริษัทจะได้รับมีคร่าวๆ ดังนี้
วางพื้นฐานการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ
เพราะ Design Thinking เป็นกระบวนการแก้ไขปัญหาที่มีแบบแผนชัดเจน เริ่มตั้งแต่การทำความเข้าใจปัญหาผ่านการสัมภาษณ์และสังเกตพฤติกรรมของผู้บริโภค, การสังเคราะห์ข้อมูล, การระดมสมอง, การรวบยอดไอเดียเพื่อสร้างแบบจำลอง ไปจนถึงการนำแบบจำลองไปทดสอบเพื่อหาคำตอบว่าอะไรที่ดีหรืออะไรที่ควรปรับปรุง ดังนั้นการวางรากฐานแบบ Design thinking ให้กับพนักงานจึงมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการช่วยให้ทรัพยากรมนุษย์ของบริษัทสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างเป็นระบบมากย่ิงขึ้น
เพิ่มทักษะการสื่อสาร
จากขั้นตอนที่ได้พูดถึงไปข้างต้นจะเห็นได้ว่า Design Thinking คือกระบวนการแก้ไขปัญหาที่เน้นการสื่อสารกับผู้อื่นเป็นหลักทั้งกับคนในทีมเองและผู้บริโภค ดังนั้นการนำแนวคิดดังกล่าวมาปรับใช้จึงเป็นอีกบทเรียนสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างทักษะการสื่อสารให้คนในองค์กรสามารถถ่ายทอดสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่ในหัวให้ออกมาเป็นภาษาที่คนทั่วไปสามารถเข้าใจง่ายได้ดีกว่าที่เคย
ติดอาวุธ Soft skills
ประโยชน์ข้อสุดท้ายของ Design Thinking ได้แก่การเสริม Soft skills หรือลักษณะอุปนิสัยที่จะช่วยให้การทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นไปอย่างง่ายดายและเต็มไปด้วยประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งทักษะนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะเราไม่สามารถหาเรียนได้จากคอร์สเรียนที่ไหน ต้องอาศัยการพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้เราได้พบเจอกับผู้อื่นเท่านั้น