แนะวิธี เช็คแบล็คลิส แบบง่าย ๆ ก่อนยื่นกู้ซื้อบ้าน
การขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านจากสถาบันการเงินต่าง ๆ นอกจากผู้กู้จะต้องตรวจสอบเงื่อนไขของสินเชื่อให้รอบคอบโดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยคงที่และลอยตัวแล้ว ยังต้องเตรียมความพร้อมก่อนยื่นเอกสารขอกู้ ซึ่งหนึ่งในเอกสารสำคัญที่ลืมไม่ได้ก็คือ ข้อมูลเครดิตบูโรหรือข้อมูลจากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ซึ่งสถาบันการเงินต้องใช้ประกอบการพิจารณาปล่อยสินเชื่อ เพราะหากผู้ยื่นกู้ เป็นผู้มี
รายชื่อผู้ติดแบล็คลิส หรือติดเครดิตบูโร ก็จะทำให้สถาบันการเงินไม่สามารถปล่อยเงินกู้ให้ได้
ติดแบล็คลิสคืออะไร ?
คนที่กำลังต้องการซื้อบ้านหรือกู้เงินก้อนใหญ่จากสถาบันการเงิน จำเป็นต้องรู้ว่า การ ติดแบล็คลิสคืออะไร เพราะสิ่งนี้จะมีผลต่อการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินแน่นอน
สถาบันการเงินทุกแห่ง จะต้องตรวจสอบวินัยทางการเงินของลูกหนี้ทุกครั้งเพื่อนำมาเป็นหนึ่งในปัจจัยประกอบการพิจารณาปล่อยกู้ โดยจะดูว่าผู้ขอกู้เคยมีประวัติการค้างชำระหนี้หรือทิ้งหนี้หรือไม่ ซึ่งหากลูกหนี้เคยค้างชำระหนี้นานเกินกว่า 3 เดือนหรือนานกว่า 90 วัน ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต, หนี้สินเชื่อบุคคลหรือหนี้สินการเช่าซื้อรถยนต์ ฯลฯ ก็ถือว่าบุคคลนั้นมีความเสี่ยงต่อการเกิด“หนี้ด้อยคุณภาพ” NPL (Non –performing Loan) และอาจกลายเป็นหนี้เสียที่สถาบันการเงินจะต้องรับภาระตั้งสำรองเพิ่ม ทำให้สถาบันการเงินปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อให้กับบุคคลที่มี รายชื่อติดแบล็คลิส ของเครดิตบูโร จนกว่าผู้กู้รายนั้นจะมีการชำระหนี้สินเรียบร้อยแล้วเป็นเวลา 3 ปี จึงจะหลุดออกจากแบล็คลิสนี้และขอกู้เงินได้ตามขั้นตอนปกติอีกครั้ง
จะ เช็คแบล็คลิส ได้อย่างไร
การ เช็คแบล็คลิส เครดิตบูโร เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยากและมีช่องทางให้สามารถตรวจสอบได้หลายวิธี โดยจะมีค่าบริการเฉลี่ย 150-300 บาทได้แก่
1. กรณีเร่งด่วนรอรับผลเลยภายใน 15 นาที สามารถขอตรวจสอบได้ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์สำนักงานใหญ่, อาคารเพิร์ล (แบ็งค็อก),สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดง, สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, ห้างเจ-เวนิว(นวนคร), เคาน์เตอร์ซิตี้แบงค์ เดอะมอลล์บางกะปิและเดอะมอลล์งามวงศ์วานและศูนย์การค้าเมกาบางนา
2. กรณีขอรับผลตรวจสอบทางอีเมลล์ จะใช้เวลาประมาณ 3 วัน โดยการขอตรวจสอบข้อมูลผ่านทางแอปพลิเคชั่นของธนาคารต่าง ๆ โดยเลือกที่ เมนูตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโร
3. กรณีรอรับผลทางไปรษณีย์ จะทราบผลภายในเวลา 7 วันโดยประมาณ ซึ่งการตรวจสอบผ่านช่องทางนี้จะต้องติดต่อและแจ้งความจำนงผ่าน เคาน์เตอร์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารธนชาตและธนาคารอาคารสงเคราะห์ นอกจากนี้ยังสามารถทำรายการที่ตู้ ATM หรือเว็บไซต์ธนาคารกรุงไทยและไทยพาณิชย์และที่ทำการไปรษณีย์บางสาขาได้ด้วย
ดังนั้นผู้ที่วางแผนจะกู้เงิน จึงต้องพยายามรักษาเครดิตของตนเองให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการกู้เงินก้อนใหญ่ในอนาคต โดยเฉพาะการกู้เงินซื้อบ้านเพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิต