การดื่มชาอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและอาการหัวใจวายได้

[milk123]

การดื่มชาอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและอาการหัวใจวายได้

นักวิจัยบอกว่าคนที่ดื่มชาเขียวและชาดำอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะได้รับประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระชื่อโพลีฟีนอลซึ่งช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด
- งานวิจัยล่าสุดพบว่าคนที่ดื่มชาอย่างน้อยสามวันต่อสัปดาห์จะมีสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดดีมากขึ้น
- ประโยชน์ที่ได้รับมันจะเกิดขึ้นจาก “โพลีฟีนอล” ซึ่งพบได้ในชาดำและชาเขียวรวมไปถึงอาหารชนิดอื่นๆ
- ผลลัพธ์มักเป็นที่กล่าวถึงในกลุ่มคนดื่มชาเขียว และเป็นที่พูดกันในกลุ่มผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
การดื่มชาวันละแก้วอาจทำให้เราไม่ต้องไปหาหมอแถมยังช่วยเพิ่มอายุขัยอีกด้วย
มีการวิจัยในประเทศจีนโดยแบ่งอาสาสมัครจำนวน 100,902 คน ออกเป็นสองกลุ่มกลุ่มแรกดื่มชาสัปดาห์ละสามวันหรือมากกว่านั้น ในขณะที่กลุ่มที่สองนั้นไม่ได้ดื่มชาเลยพบว่ากลุ่มคนที่ดื่มชามีสุขภาพดีมากกว่าและนานกว่า
คนที่ชอบดื่มชาจะมีโอกาสเกิดโรคหัวใจและอาการหัวใจวายลดลงถึง 20% , มีโอกาสเสียชีวิตจากโรคทั้งสองอย่างนี้ 22% , และมีโอกาสเสียชีวิตจากสาเหตุอื่น 15%
นอกจากนี้ยังมีอีกงานวิจัยที่มีอาสาสมัคร 14,000 คน ซึ่งพบว่าการดื่มชาเป็นประจำจะช่วยลดโอกาสเป็นโรคหัวใจในระดับร้ายแรงและอาการหัวใจวายถึง 56%

โพสบทความโดย pussy888

พลังของสารโพลีฟีนอล
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าประโยชน์ที่ได้รับจากการดื่มชานั้นอาจจะมาจากโพลีฟีนอลซึ่งพบได้ทั้งในชาเขียวและชาดำ โดยประโยชน์ที่ได้รับจะมีทั้งการบำรุงระบบการทำงานของหลอดเลือด , เพิ่มระดับไขมันดีซึ่งจะช่วยปกป้องหัวใจ สารนี้ยังช่วยลดอาการอักเสบ , ลดการแข็งตัวและความเหนียวของเลือด ซึ่งทำให้มันเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจอย่างมาก
นักวิจัยบอกว่าสารโพลีฟีนอลจะอยู่ในร่างกายได้ไม่นานจึงจำเป็นที่จะต้องมีการดื่มชาบ่อยๆเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากสารชนิดนี้

สนับสนุนโดย 918kiss

แล้วเราควรดื่มชาเขียวหรือชาดำดีล่ะ?
ทั้งชาเขียวและชาดำต่างก็มีสารโฟลีฟีนอล ความแตกต่างอาจจะเป็นที่พูดกันในเฉพาะกลุ่มคนที่ดื่มชาเขียวเท่านั้น นั่นเป็นเพราะว่ากระบวนการในการผลิตชาดำนั้นอาจจะทำให้ประสิทธิภาพของโฟลีฟีนอลลดลง และการใส่นมลงในชาดำยังทำให้เกิดความเจือจางของโฟลีฟีนอลด้วย
การวิจัยพบว่านักดื่มชา 49% จะเลือกดื่มชาเขียวในขณะที่อีก 8% จะดื่มขาดำ จึงทำการวัดความแตกต่างได้ค่อนข้างยากแต่อย่างไรก็ตามก็มีผลการวิจัยออกมาแล้วว่าการดื่มชาทั้งสองอย่างนี้จะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันจริงๆ

เสนอโดย liveclub777