สวัสดีครับเพื่อนๆ ในช่วงเวลาที่ราคาน้ำมันแพงขึ้นอย่างนี้ การช่วยกันประหยัดพลังงานและใช้อย่างรู้คุณค่าคงเป็นแนวทางหนึ่งที่ทุกคนจะช่วยกันได้ เมื่อพูดถึงการใช้น้ำมัน เพื่อนๆ หลายคนคงนึกถึงรถยนต์ ซึ่งถึงแม้จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตในปัจจุบันนี้ แต่ก็ยังคงเป็นผู้บริโภคน้ำมันเป็นอันดับหนึ่ง ต้องพึ่งพาน้ำมันเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเครื่องยนต์ ด้วยความต้องการที่จะลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และใส่ใจต่อสภาพแวดล้อม
รถยนต์ไฮบริด จึงถูกพัฒนาขึ้น
ขณะนี้รถยนต์ไฮบริดมีจำหน่ายทั้งในอเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งต่อไปก็คงจะมีเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเหมือนกัน อาซิโมจึงอยากให้เพื่อนๆ เข้าใจถึงการทำงานของเครื่องยนต์ไฮบริดให้มากขึ้น ทำไมหนอรถยนต์ไฮบริดจึงช่วยประหยัดน้ำมัน
สำหรับฮอนด้าแล้ว เครื่องยนต์ไฮบริดถูกเรียกว่า IMA หรือ Integrated Motor Assist เนื่องจากเป็นเครื่องยนต์ลูกผสมที่มีทั้งเครื่องยนต์เผาไหม้ไอดีแบบที่ใช้กันอยู่ในรถบนท้องถนนทุกวันนี้ เป็นพลังขับเคลื่อนหลัก และยังมีมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ช่วยเสริมการทำงานตลอดการขับ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เป็นลูกครึ่งก็เพราะว่า เป็นเครื่องยนต์ที่ใช้ทั้งน้ำมันและไฟฟ้าช่วยในการขับเคลื่อน อ้าว...แล้วน้ำมันกับไฟฟ้าผสมกันได้ยังไงหล่ะเนี่ย อย่าเพิ่งรีบร้อนซิครับ อาซิโมกำลังจะเล่าต่ออยู่นี่ไง น้ำมันกับไฟฟ้าไม่ได้ผสมกันอย่างที่เพื่อนๆ กำลังเข้าใจ แต่เป็นการรวมกันแบบช่วยเหลือกัน มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเครื่องยนต์ต่างหาก ประมาณว่าผู้ช่วยพระเอกยังไงยังงั้น อย่าเพิ่งถามนะครับว่าแล้วจะประหยัดยังไงเพราะอาซิโมต้องเล่าถึงการทำงานของเครื่องยนต์ IMA ก่อน แล้วเพื่อนก้จะทราบคำตอบ
ในขณะที่รถออกตัว หรือเร่งแซง ซึ่งเครื่องยนต์ต้องการกำลังมากขึ้น แต่เดิมในสภาวะเช่นนี้เครื่องยนต์จะต้องเผาใหม้น้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นเพื่อให้ได้แรงบิดมากขึ้น เปรียบง่ายๆ กับคนเราที่ต้องหายใจถี่ขึ้นสูดอากาศมากขึ้นเมื่อต้องออกวิ่งหรือพยายามจะเพิ่มความเร็วเพื่อแซงเพื่อนที่วิ่งอยู่ข้างหน้า แต่สำหรับเครื่องยนต์ IMA นี้ มอเตอร์ไฟฟ้าจะช่วยเพิ่มสมถรรถนะ ทำให้ได้แรงบิดเพิ่มขึ้น โดยเครื่องยนต์ไม่ต้องเผาใหม้น้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น มอเตอร์ไฟฟ้าก็เปรียบเสมือนเราใช้มอเตอร์ไซด์หรือจักรยานเป็นเครื่องทุ่นแรงทำให้ไม่ต้องหอบหายใจถี่ๆ เนื่องจากการวิ่งนั่นเอง
แต่เมื่อขับในระยะทางไกล มอเตอร์ไฟฟ้าจะไม่ทำงาน เพื่อจะใช้กำลังจากเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มที่ ในช่วงนี้จะประหยัดมากน้อยขนาดไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับอัตราความสิ้นเปลืองน้ำมันของเครื่องยนต์รุ่นนั้นๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่รถยนต์ต้องการกำลังพิเศษเพิ่มเติม มอเตอร์ไฟฟ้าก็พร้อมที่จะช่วยเพิ่มกำลังให้เครื่องยนต์ตลอด ซึ่งขึ้นอยู่กับความเร็วของรถยนต์และการเปิดของลิ้นปีกผีเสื้อ (ลิ้นที่เปิดปิดเพื่อรับอากาศเข้าไปผสมกับน้ำมัน) ในขณะนั้น ถ้าหากรถยนต์วิ่งด้วยความเร็วต่ำ หรือประมาณ 40 กิโลเมตร / ชั่วโมง รถยนต์ก็จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ในช่วงที่รถยนต์ลดความเร็ว ซึ่งอาจจะเป็นเพราะการเบรกหรือถอนคันเร่ง กำลังที่เกิดขึ้นในช่วงนี้มักจะสูญเสียไปในรูปของความร้อน และเพื่อที่จะนำพลังงานที่จะต้องสูญเสียไปนี้กลับมาใช้ประโยชน์ มอเตอร์ไฟฟ้าก็จะทำหน้าที่เสมือนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า คอยชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรีเก็บเป็นพลังสำรองไว้ใช้ในเวลาที่รถต้องการพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้านี้ เห็นมั้ยหล่ะครับว่าเราไม่ต้องไปเสียบปลั๊กชาร์จไฟให้ยุ่งยากเลย แถมยังไม่เปลืองไฟอีกต่างหาก นับว่าเป็นการเอาพลังงานที่ต้องสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์กลับมาใช้ได้อย่างชาญฉลาดจริงๆ
ถึงแม้ว่ายังจะต้องพึ่งพาน้ำมันอยู่ แต่รถยนต์ไฮบริดก็ช่วยลดการใช้น้ำมันลงไปได้เยอะเชียวนะครับ อย่างอินไซด์ มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 35 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนซีวิคไฮบริดตัวใหม่มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประมาณ 21.74 กิโลเมตร/ลิตร ในขณะที่รถซึ่งวิ่งกันอยู่บนท้องถนนทุกวันนี้ จะมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ประมาณ 8 - 16 กิโลเมตร/ลิตร
นอกจากจะประหยัดน้ำมันแล้ว เครื่องยนต์ไฮบริดยังช่วยลดมลภาวะด้วยนะครับ ก็อย่างที่เพื่อนๆ รู้ว่าการเผาใหม้ของเครื่องยนต์จะทำให้เกิดมลภาวะ ทั้งก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ ไฮโดรคาร์บอน และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ฝนกรด และมลพิษต่างๆ เครื่องยนต์ไฮบริดซึ่งช่วยลดการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงลง ก็จะทำให้ก๊าซต่างๆ เหล่านี้ลดลงไปด้วย โลกจะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเชียวนะครับ
ที่มา http://www.iloveasimo.com