ทุกวันนี้การเข้าถึงบริการทางการเงินเช่นการขอเปิดบัตรเครดิต
บัตรกดเงินสด หรือบริการทางการเงินอื่น ๆ ทำได้ง่ายขึ้นมาก จึงมีคนส่วนหนึ่งที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเป็นหนี้บัตรเหล่านั้นจนจัดการไม่ไหว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นยังมีทางออกที่เป็นไปได้ นั่นคือการรีไฟแนนซ์หรือการรวมหนี้บัตรให้เป็นก้อนเดียว ซึ่งขั้นแรกที่ต้องทำก็คือเข้าไปติดต่อธนาคารที่คุณเลือกแล้วว่าน่าจะให้ความช่วยเหลือคุณได้
การติดต่อธนาคาร ให้คุณขอวงเงินซึ่งมากกว่ายอดหนี้ที่เป็นอยู่ เพราะหากขอไปแบบพอดี แล้วธนาคารอนุมัติน้อยกว่าวงเงินที่ขอ คุณก็จะไม่พอปิดหนี้บัตรทั้งหมดได้ สำหรับการรีไฟแนนซ์กับ SCB จะทำผ่าน สินเชื่อส่วนบุคคล Speedy Loan โดยเป็นการรวมหนี้ได้สูงสุดห้ารายการและมีระยะเวลาผ่อนชำระตั้งแต่ 12 เดือนถึง 72 เดือน (ขึ้นอยู่กับยอดหนี้) เมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว ขั้นต่อไปก็คือการวางแผนทางการเงิน ส่วนจะทำอย่างไรได้บ้าง ไปดูกันทีละข้อได้เลยครับ!
• ไม่ก่อหนี้เพิ่ม
เรื่องนี้สำคัญมากและควรเป็นเรื่องแรกที่ตั้งใจไว้กับตัวเองในการวางแผนบริหารจัดการทางการเงิน เพราะถ้าสร้างหนี้เพิ่มไม่ว่าจะเป็นการ กู้เงิน
bank of Thailand SCB หรือหนี้นอกระบบ มันก็จะทำให้คุณเป็นหนี้ต่อไปไม่จบไม่สิ้น ทำให้การรีไฟแนนซ์ครั้งนี้แทบไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย แทนที่จะมีเงินเหลือก็กลับต้องเป็นหนี้เพิ่มขึ้นไปอีก
• ชำระหนี้ตรงเวลาเพื่อสร้างเครดิตทางการเงิน
เมื่อสินเชื่อส่วนบุคคลชนิดนี้ทำให้คุณสบายขึ้น สิ่งที่คุณควรทำก็คือชำระหนี้ตามกำหนด ดูผิวเผินเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไร แต่ถ้าลองมองให้ดีแล้วมันคือการสร้างเครดิตที่ดีให้กับตัวคุณเอง สมมุติอนาคตคุณมีปัญหาทางการเงินอีกและต้องการใช้เงินด้วยการขอเปิด บัตรกดเงินสด หรือต้องการเงินลงทุนแล้วไปติดต่อธนาคาร
เครดิตที่ได้สะสมไว้จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ธนาคารอนุมัติวงเงินให้คุณง่ายขึ้น
• วางแผนว่าเมื่อผ่อนน้อยลงแล้วจะเอาเงินส่วนต่างไปทำอะไร
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ทุกคนตัดสินใจ รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ก็คือทำให้ผ่อนน้อยลง เช่นจากเดิมต้องผ่อนรวมบัตรทุกใบอยู่ที่เดือนละ 20,000 บาท สำหรับหลายคนแล้ว เงินจำนวนนี้ถือเป็นเกือบทั้งหมดของรายได้ต่อเดือน แต่เมื่อขอ กู้เงินธนาคาร ตามวัตถุประสงค์นี้แล้วทำให้ผ่อนอยู่ที่เดือนละประมาณ 10,000 บาท นั่นแสดงว่าคุณมีเงินเหลือในทุกเดือน อย่าเพิ่งเอามาใช้จ่ายในเรื่องที่ไม่จำเป็น ให้วางแผนว่าจะเอาเงินนั้นไปทำอะไรดี มีหลายอย่างที่ทำได้ตั้งแต่เก็บไว้เพื่อตั้งต้นธุรกิจเล็ก ๆ ของตัวเอง ลงทุนกับหุ้นหรือกองทุนรวม สะสมไว้ซื้อทองคำ ฯลฯ ทั้งหมดนี้ทำให้เงินส่วนต่างที่ได้มาก่อให้เกิดผลดีระยะยาว
ท้ายที่สุดการ รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต จะได้ประโยชน์สูงสุดหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีวินัยทางการเงินมากแค่ไหน และมีการวางแผนเผื่ออนาคตได้ดีเพียงใด ถ้ามีวินัยทางการเงิน ผ่อนชำระตรงเวลา ไม่สร้างหนี้เพิ่ม และวางแผนได้ว่าเงินที่เหลือจะนำไปลงทุนทำอะไร คุณก็จะได้ประโยชน์จากการรีไฟแนนซ์อย่างเต็มที่
ที่มาของข้อมูล:
https://bit.ly/2DIyUuQ
https://www.scb.co.th/th/personal-bankin...n-all.html