นครโฮจิมินห์หรือไซง่อน เมืองที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม จากสมรภูมิสงครามสู่กวามก้าวหน้าและยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง วันนี้918kissจะพาชมโฮจิมิห์ซิตี้มีที่ท่องเที่ยวครบทั้งร่องรอยประวัติศาสตร์ ธรรมชาติยิ่งใหญ่ วัฒนธรรมการกินดื่มอันมีเสน่ห์ และนี่คือ 5 สถานที่ห้ามพลาดเมื่อไปเยือนนครโฮจิมินห์ ที่เรารวบรวมมาฝาก
1 NOTRE DAME CATHEDRAL
โบสถ์นอเตรอดาม ได้รับยกย่องว่างดงาม มากที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนามสร้างขึ้นในปี 1877 เสร็จสมบูรณ์ปี 1880 สัญลักษณ์การเข้ามาของ ตะวันตกสังเกตได้จากรูปแบบสถาปัตยกรรม ฝรั่งเศสมีหอคอยคู่สี่เหลี่ยมอยู่ด้านบนสูง40 เมตร ด้านหน้ามีรูปปั้นพระแม่มารีขนาดใหญ่สง่างาม นักท่องเที่ยวมาที่นี่จำนวนมากเกือบตลอดทั้งวัน เพราะถือเป็นสัญลักษณ์ของโฮจิมินห์ซิตี้ เวลา ถ่ายรูปต้องลองหามุมกันหน่อยเพราะคนเยอะ และอาคารอยู่ระหว่างการซ่อมแซม
2 SAIGON CENTRAL POST OFFICE
ข้ามถนนจากโบสถ์นอเตรอดามก็จะพบกับ ไปรษณีย์กลางโฮจิมินห์ ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุด ในเวียดนาม ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1886-1891 โดยสปานิกชาวฝรั่งเศส มีความผสมผสานของ สถาปัตยกรรมที่ใช้โครงสร้างแบบตะวันตกและ การตกแต่งสไตล์ตะวันออก ภายในตัวอาคารโอ่อ่า ประดับกระจกสี ภาพแผนที่ทางทะเลโบราณ ภาพอดีตผู้นำโฮจิมินห์ ซึ่งที่นั่งมุมหนึ่งของอาคาร จะพบคุณลุงชาวเวียดนามอายุ 0 ปีให้บริการ เขียนจดหมายเป็นภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส มาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ และยังคงมาที่นี่เพื่อทักทาย นักท่องเที่ยวอยู่เสมอ
3 INDEPENDENCE PALACE
ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดที่เกี่ยวข้องกับ ประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งของไซ่ง่อนมากกว่า ทำเนียบอิสรภาพ ซึ่งเคยโดนวางระเบิดเพื่อ สังหารอดีตประธานาธิบดีเวียดนามใต้จุดสุดท้าย ของการยุติสงครามเวียดนามเหนือ-ใต้ ซึ่งมี ภาพจำเป็นรถถังชนประตูทำเนียบ ปัจจุบันที่นี่ เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมได้ ทั้งห้องประชุม ห้องทำงาน ห้องโถงที่จุคนได้ถึง 800 คน โดย ทุกอย่างถูกทิ้งไว้ให้คงสภาพเดิมเหมือนเมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1966
4 WAR REMNANTS MUSEUM
พิพิธภัณฑ์ที่โด่งดังที่สุดของโฮจิมินห์ซิตี้ พิพิธภัณฑ์สงคราม ภายนอกจัดแสดงเรือนจำเก่า รถถัง เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ส่วนภายในบอกเล่า เรื่องราวของสงครามเวียดนามจากมุมมองของ ผู้ชนะ ซึ่งค่อนข้างหดหู่เพราะได้เห็นความทุกข์ยาก ของเหยื่อสงครามที่ต้องการสันติภาพซึ่งเขาไม่เคย ได้รับ ผ่านการจัดแสดงสิ่งของต่าง ๆ มากกว่า 20,000 ชิ้น เช่นอุปกรณ์ที่ใช้เมื่อคราสู้รบ ภาพถ่าย ระหว่างสงครามกว่า 250 ภาพ สารเคมีเอเจนท์ ออเรนจ์ (Agent Orange) ที่ทำให้ชาวเวียดนาม ตกเป็นเหยื่อของฝนเหลือง
5 CU CHI TUNNELS
จากกูจี บ้านนาอันสงบสุขของชาวบ้านซึ่งมีอาชีพทำสวนผลไม้ สวนยางพารา ถูกใช้เป็นอาวุธจากการสร้างอุโมงค์ลับชั้นใต้ดินโดยชาวบ้าน ที่มีเพียงจอบเสียมสร้างเส้นทางเชื่อมโยงอุโมงค์กว้างขวางครอบคลุม พื้นที่กว่าแสนไร่ตั้งแต่สมัยที่เวียดนามทำสงครามกับฝรั่งเศสและมีความ สำคัญมากขึ้นเมื่อ อุโมงค์กู้จี ได้มีส่วนช่วยให้ทหารเวียดกงต่อสู้กับ ทหารอเมริกันจนชนะในสงครามเวียดนาม อุโมงค์ตั้งห่างจากใจกลางโฮจิมินห์ชิตี้ราว 60 กิโลเมตร นักท่องเที่ยว สามารถซื้อทัวร์มอเตอร์ไซค์หรือเรือเข้าไปชมได้ โดยจะได้รับรู้เรื่องราว การต่อสู้ต่าง ๆ ผ่านวิดีโอสารคดี เห็นถึงยุทธวิธีที่ทำให้เวียดนามเป็น ฝ่ายชนะ และความซับซ้อนของอุโมงค์ใต้ดิน โดยอุโมงค์นั้นแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ประกอบด้วยปล่องระบายอากาศ ห้องประชุม ห้องนอน ห้องพยาบาลครัวและคลังอาวุธสามารถจุผู้คนได้ถึง 16,000 คนทหารอเมริกัน พยายามทำลายที่นี่หลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ทั้งสูบน้ำมาใส่อุโมงค์เพื่อให้ น้ำท่วมทิ้งระเบิดสังหารแบบปูพรมเพื่อให้ตายกันหมด แต่ก็ยังไม่สามารถ ทำลายอุโมงค์ได้ เพราะอุโมงค์มีความลึกและซับซ้อนมากนั่นเอง นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์จุดซุ่มยิงยิงปืนด้วยกระสุนจริง ลอดอุโมงค์ไต้ดินที่ข้างในทั้งมืดและแคบด้วยตัวเอง แน่นอนว่ามีผู้นำทาง พาเข้าและออกจากอุโมงค์ CAN GIO MANGROVE FOREST นั่งเรื่อเร็วราว 1 ชั่วโมงออกห่างจากโฮจิมินห์ซิตี้ ไปราว 40 กิโลเมตร เชื่อมต่อกับธรรมชาติในพื้นที่ ป่าชายเลนเกินเส่อ ปอดสีเขียวที่มีส่วนช่วย ในการรักษาระบบนิเวศ และถูกกำหนดให้เป็น เขตสงวนชีวมณฑลโดยยูเนสโกในปี 2000 นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือเล็กโดยฝีพาย ชาวเวียดนาม ชมความอุดมสมบุรณ์ของ ปาโกงกางที่ช่วยรักษาเสถียรภาพชายฝั่ง รวมถึง ออกเดินสำรวจพื้นทีปชายเลนที่มีพฤกษชาติ มากกว่า 150สายพันธุ์ ประกอบด้วยพืชสมุนไพร ทั้งมีพิษและล้างพิษชมฝูงลิง ชะนี ทดลองตกป ด้วยตัวเองให้อาหารจระเข้แบบใกล้ชิดปิดท้ายด้วย การขึ้นหอคอยสูง 28 เมตร ชมทัศนียภาพ อันงดงามของเกินเส่อแล้วสูดอากาศบริสุทธิ์ ให้ฉ่ำปอด