อาจารย์ มนัส ดาวมณี (ที่สองจากขวา)กำลังอธิบายเรื่องระบบไฮบริดให้ผู้สื่อข่าว
สำหรับเทคโนโลยีใหม่ของไทยอย่าง
ระบบไฮบริด แน่นอนว่ามีหลายคนยังมีข้อสงสัยและค้างคาใจอยู่ “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” จึงรวบรวมคำถามยอดฮิต ถามกับ “มนัส ดาวมณี” รองผู้อำนวยการฝ่ายบริการด้านเทคนิค บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด ผู้เชี่ยวชาญระบบไฮบริดหมายเลข 1 ของโตโยต้า
ความแตกต่างของระบบไฮบริดของโตโยต้ากับไฮบริดอื่นๆ?
ระบบไฮบริดของโตโยต้าจะเป็นการรวมเอาข้อดีของระบบไฮบริดทั้ง 2 แบบ เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งจุดแตกต่างจะมีอยู่ประมาณ 3 จุดใหญ่ๆ คือ
- มีเจนเนอเรเตอร์(มอเตอร์) 2 ตัว ขณะที่ไฮบริดอื่นจะมีเพียงตัวเดียว
- การชาร์จกับการขับแยกส่วนกันไม่จำเป็นต้องหมุนตลอดเวลา ทั่วไปจะรวมและหมุนตลอด
- มอเตอร์อยู่บนเพลาขับ
หากให้เปรียบเทียบระบบไฮบริดของโตโยต้าจะเหมือนกับนักปั่นจักรยาน 2 คนช่วยกันปั่น คนหนึ่งเป็นนักปั่นสปรินท์คือทำเวลาเร็ว เน้นสปีดช่วงต้น ขณะที่อีกคนเป็นนักปั่นแบบระยะทางไกล สลับหรือช่วยกันทำงาน ขณะที่ระบบไฮบริดธรรมดาทั่วไปจะเป็นเหมือน ผู้ใหญ่กับเด็กช่วยกันปั่นจักรยาน คือเด็กจะทำได้แค่ช่วยปั่นลดภาระของผู้ใหญ่ส่วนหนึ่ง
การบำรุงดูแลรักษา?
ไม่แตกต่างจากรถปกติมากนัก โดยเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายด้านการบริการหลังการขายในระยะทางที่วิ่งใช้งานเท่าๆ กัน คัมรี่รุ่นเครื่องยนต์ธรรมดา มีค่าใช้จ่ายราว 23,700 บาท เท่ากันกับ คัมรี่รุ่นไฮบริดที่กำลังจะเปิดตัว โดยแบ่งเป็นค่าอะไหล่และของเหลวประมาณ 18,000 บาท และค่าแรง 5,700 บาท
ทั้งนี้ทางโตโยต้า ได้จัดเตรียมด้านการบริการหลังการขายสำหรับรถไฮบริดไว้พร้อมแล้ว โดยมีการอบรมบุคลากรระดับครูฝึกจำนวน 289 คน กระจายประจำอยู่ทุกศูนย์บริการแห่งละ 1 คน และจะมีพนักงานระดับปฏิบัติงานซ่อมที่ผ่านการอบรมอีก 1 คนอยู่คู่กัน นั่นเท่ากับว่า ทุกศูนย์จะมีช่างที่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ไฮบริดไว้รองรับอย่างน้อยศูนย์บริการละ 2 คน
ซึ่งครูฝึกจะมีหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ให้กับช่างอื่นๆ ภายในศูนย์ด้วยในอนาคต รวมถึงทางโตโยต้า พัฒนาระบบการแก้ปัญหาแบบรีล ไทม์ (Real Time) ผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ต เพื่อให้ช่างสามารถรายงานปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถไฮบริดเข้ามายังศูนย์เทคนิคและสอบถามแนวทางการซ่อมได้ตลอดเวลา เรียกว่าโตโยต้าเตรียมความพร้อมให้กับทุกศูนย์บริการเพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้ารถไฮบริดทุกคน