ครูพี่แนนนำทีมแนะเด็กไทยควรเตรียมพร้อมก้าวสู่ AEC

[reporter]

เมษายน - Enconcept: English is Alive สถาบันกวดวิชาภาษาอังกฤษชั้นนำของไทย จัดงาน “Think Beyond: คิดข้ามช็อต” กิจกรรมแนะแนวผู้ปกครอง และนักเรียนม.ต้น ครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อเตรียมความคิดพร้อมรับกระแสโลก สู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ภายใต้แนวคิด “คิดก่อน, คิดกล้า, คิดเก่ง” กิจกรรมในครั้งนี้มีคุณครูมากความสามารถจาก Enconcept ได้แก่ ครูพี่แนน อริสรา ธนาปกิจ ครูพี่เมย์ ศศิมาลา จันทมาลา และครูพี่หมุย ธนัช ลาภนิมิตชัย จาก SociThai เป็นวิทยากรให้ข้อคิดเห็นและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อการเตรียมตัวของเด็กไทย โดยมีผู้ปกครองและเด็กนักเรียนเข้าฟังกว่า 1,000 คนที่สถาบันกวดวิชาภาษาอังกฤษ Enconcept สาขาโอเอซิส ศูนย์หนังสือจุฬาชั้น 13 และถ่ายทดสดไปยัง 6 สาขาทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น โคราช หาดใหญ่ และนครศรีธรรมราช
เด็กไทยสู่ AEC เจอศึกหนักหากไม่รู้ภาษาอังกฤษ



ปี 2558 ประเทศไทยจะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ภูมิภาคอาเซียนจะกลายเป็นกลุ่มเศรษฐกิจขนาดใหญ่ มีตลาดและฐานการผลิตเดียวกัน ส่งผลให้แรงงาน สินค้าและบริการเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรีภายในภูมิภาค ทั้งนี้ภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาชนต้องตื่นตัวและปรับตัว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และหาโอกาสใหม่ๆให้กับตนเองเมื่อประตู AEC เปิดในอีก 3 ปีข้างหน้า
เหล่าวิทยากรแนะเด็กไทยควรพัฒนาทักษะทางด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นมากเมื่อไทยก้าวสู่ AEC ครูพี่เมย์ชี้จะมีการแข่งขันสูงในตลาดแรงงาน เพราะจะมีอาชีพ 8 อาชีพที่แรงงานสามารถทำงานได้ทั่วภูมิภาค ซึ่งได้แก่ วิศวกร พยาบาล สถาปนิก การสำรวจ นักบัญชี ทันตแพทย์ แพทย์ การบริการ/การท่องเที่ยว บริษัทต่างๆ จะเริ่มคัดเลือกพนักงานในระดับภูมิภาคแทนการหาแรงงานในประเทศเพียงอย่างเดียว ดังนั้นความสามารถทางด้านภาษาจะกลายเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการคัดเลือกพนักงาน

อย่างไรก็ตามความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษของเด็กไทยและคุณภาพการศึกษาของไทยยังคงตามหลังประเทศเพื่อนบ้านมาก ครูพี่แนนกล่าวว่า การสอบโทเฟลในระบบใหม่ ซึ่งเป็นการวัดทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน ผ่านทาง online ประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 6 ในกลุ่มอาเซียน โดยเวียดนามได้แซงหน้าไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนคุณภาพการศึกษาไทยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 10 ประเทศ ไทยอยู่อันดับ 8 ส่งผลเสียให้เด็กไทยเสียเปรียบอย่างมากในการแข่งขันในตลาดแรงงาน

ไทยได้เปรียบแน่ถ้าภาษาอังกฤษเจ๋ง

ครูพี่แนน หนึ่งในผู้ก่อตั้งสถาบันกวดวิชาภาษาอังกฤษ Enconcept ได้ยกคำกล่าวของ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตรองเลขาธิการอาเซียนจากหนังสือ อาเซียนรู้ไว้ได้เปรียบแน่ ซึ่งกล่าวไว้ว่า “ประเทศสิงคโปร์กับมาเลเซียก้าวไปได้เร็วเพราะประชาชนของเขาพูดภาษาอังกฤษได้ ต้องผลักดันให้เด็กๆพูดภาษาอังกฤษเป็น ผมพูดจากประสบการณ์กว่า 60 ปี ว่าภาษาอังกฤษดี สร้างความได้เปรียบให้มนุษย์คนหนึ่งมากมายมหาศาล คือช่วยขยายขีดความสามารถในการแสดงออก”

ครูพี่แนนกล่าวว่าภาษาอังกฤษ ไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะด้านการติดต่อสื่อสาร แต่ยังเป็นเหมือนประตูบานใหญ่ในการหาองค์ความรู้ใหม่ๆ เพราะต้นทางความรู้ส่วนใหญ่ เช่น วารสารทางการแพทย์ หรือ การค้นคว้าวิจัยต่างๆ ในอินเทอร์เน็ต มักจะเป็นภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นมากที่เราต้องพัฒนาภาษาอังกฤษให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ

ครูพี่หมุยให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงความสำคัญของภาษาอังกฤษ โดยยกตัวอย่างบริษัทผลิตน้ำมันยักษ์ ใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ซึ่งเป็นที่ใฝ่ฝันของผู้ที่จบทางด้านวิศวกรรมที่อยากทำงานที่แท่นขุดเจาะ เพราะรายได้เริ่มต้นสูงถึงหนึ่งแสนบาทต่อเดือน บริษัทดังกล่าวใช้วิธีคัดเลือกพนักงานด้วยการให้พนักงานโทรข้ามประเทศไปยังโรงเรียนสอนภาษาที่ประเทศอังกฤษ เพื่อวัดทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของผู้เข้าสมัคร

การศึกษาไทยล้มเหลว เด็กเรียนไปแล้วใช้ไม่ได้ในชีวิตจริง

ครูพี่หมุยกล่าวว่า ประเทศไทยลงทุนทางด้านการศึกษาค่อนข้างมาก ในเมื่อเด็กไทยก็เรียนหนัก แต่ได้ผลน้อยเพราะ 90 เปอร์เซ็นต์ของสิ่งที่เด็กเรียนไม่สามารถใช้ได้ในชีวิตจริง

แนะการศึกษาไทยเจริญรอยตามเวียดนามและสิงคโปร์

นับได้ว่าเวียดนามและสิงคโปร์ประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษาเป็นอย่างมาก เด็กเวียดนามใส่ใจเรื่องการเรียนมาก พวกเขานอนวันละ 3 ชั่วโมง หมั่นอ่านหนังสือทบทวนด้วยตนเอง ด้วยความเชื่อที่ว่า อะไรก็ได้เพื่อโอกาสที่ดีกว่า (Anything for the Better Future) สำหรับประเทศอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียนด้านคุณภาพการศึกษาอย่างสิงคโปร์ ถือว่าคิดข้ามช็อตมาก สิงคโปร์ได้พัฒนาระบบการศึกษาอย่างต่อเนื่อง และได้วางหลักสูตรทางการศึกษาไว้ดีมาก ภายใต้นโยบาย สอนให้น้อยแต่เรียนรู้มากขึ้น “Teach Less, Learn More”

ท่องเที่ยวและโลจิสติกส์มาแรงหลังเปิด AEC

หลังเปิด AEC การคมนาคมระหว่างประเทศจะสะดวกขึ้น เพราะจะมีโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย ซึ่งเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมโยงทะเลอันดามันกับอ่าวไทย หรือโครงการรถไฟความเร็วสูงจากประเทศจีนมายังสิงคโปร์ ซึ่งเส้นทางส่วนใหญ่ผ่านประเทศไทย ซึ่งเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวและการขนส่ง จะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมายังประเทศไทยมากขึ้น ครูพี่แนนแนะนำว่าอาชีพที่มาแรงอย่าง อาชีพบริการและการท่องเที่ยว ก็เป็นอาชีพที่น่าสนใจสำหรับเด็กสายศิลป์ เพราะต้องใช้ความสามารถทางด้านภาษาอย่างมาก เด็กควรมีความแข็งแกร่งทางด้านภาษาอังกฤษ ส่วนภาษาที่สามที่แนะนำคือ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น หรือภาษาอาหรับ

หากวิเคราะห์ ถึงที่ตั้งของประเทศไทยแล้ว ถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์หรือเรียกว่า HUB กล่าวคือ ด้านบนเป็นจีน ฝั่งหนึ่งเป็นอินเดีย อีกฝั่งหนึ่งเป็นญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ส่วนด้านล่างเป็นออสเตรเลีย เรามีทรัพยากรธรรมชาติมหาศาล ดังนั้นอีก 1 อาชีพที่น่าสนใจคือโลจิสติกส์ หรือการขนส่ง ซึ่งเป็นเรื่องของการจัดการด้านการขนส่งสินค้าจากคลังไปยังผู้บริโภค ซึ่งเมืองไทยยังขาดแคลนทรัพยากรบุคคลด้าน โลจิสติกส์อยู่มาก