ตอบกระทู้ 
 
คะแนนกระทู้:
  • 0 Votes - 0 Average
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
การเลือกซื้อ Air Card (แอร์การ์ด)
Thu, 08 Apr 10, 23:29
Post: #1
การเลือกซื้อ Air Card (แอร์การ์ด)
   

พื้นฐานการเลือกซื้อ Air Card มาใช้กับ Notebook
AirCard คืออะไร ความเร็ว เท่าไร / ระบบ EDGE คืออะไร GPRS หมายถึง อะไร

AirCard คือ อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกับ notebook หรือ PC ตั้งโต๊ะ เพื่อเล่น internet แบบไร้สาย ผ่านผู้ให้บริการมือถือเช่น AIS หรือ DTAC โดย AirCard จะมีทั้งแบบที่เป็น PCMCIA หรือ ExpressCard ที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับ notebook หรือ AirCard แบบ USB ที่ใช้กับ computer ได้ทุกเครื่องที่มี USB port

ในปัจจุบันนี้เมืองไทยยังมีแค่ EDGE โดยผู้ให้บริการ AIS และ DTAC ให้บริการเชื่อมต่อ EDGE ที่ความเร็วสูงสุด 220Kbps แต่การใช้งานจริงจะอยู่ระหว่าง 100-200Kbps

โดยความเร็วขนาดนี้สามารถใช้ เข้าweb ฟังเพลง เล่นเกมส์ chatพร้อมดูwebcam ได้สบาย แต่ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า EDGE นั้นไม่ต่างจากคลื่นมือถือตรงที่ว่าในบางช่วงเวลาสัญญาณจะอ่อนหรือหายไป ซึ่งจะทำให้ net เดินสะดุด ดังนั้นหากนำไปใช้เล่นเกมส์จำพวกที่ว่าห้ามเน็ตเดินสะดุดเลยสักช่วงวินาทีเดียว ทางเราขอแนะนำให้ใช้การเชื่อมต่อแบบสาย Hi-Speed จะทำให้เล่นเกมส์ได้ stable กว่า

ความเร็วของ EDGE นั้นยังไม่สามารถใช้ดู TV หรือ Youtube ได้แบบต่อเนื่อง โดยภาพที่ได้จะสะดุดเป็นช่วงๆ จำเป็นต้องให้download เสร็จก่อนค่อยดูทีเดียว ดังนั้นหากต้องการดู TV ด้วย AirCard จำเป็นต้องรอระบบ 3G เท่านั้น ซึ่ง3Gจะวิ่งที่ความเร็ว 3.6-7.2Mbps สามารถใช้ดู TV ได้ 3-5 ช่องพร้อมกันแบบสบายๆ ไม่มีติดขัด

ข้อแตกต่างของการใช้มือถือ กับ AIRCARD ต่อ internet ผ่าน notebook

โทรศัพท์มือถือโดยทั่วไปที่สามารถเชื่อมต่อ internet ได้จะมีที้งแบบที่รองรับเฉพาะ GPRS หรือรองรับทั้ง GPRS / EDGE (รุ่นใหม่ๆบางรุ่นจะ support 3G ด้วย)

ถ้ามือถือรอบรับ EDGE และต่อกับ notebook ผ่านสาย data link จะได้ความเร็ว EDGE ไม่ต่างกับเชื่อมต่อ internet ผ่าน AIRCARD แต่ถ้ามือถือต่อกับ notebook ผ่าน bluetooth บางครั้งข้อมูลอาจเดินสะดุดและช้าบ้าง

AirCard ถ้าเปรียบเทียบกับมือถือที่รองรับ EDGE จะได้เปรียบในเรื่อง

1. ความเสถียรของสัญญาณ เนื่องจาก AirCard มีเสารับสัญญาณที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เล่น internet โดยเฉพาะ

2. ใช้พลังงานจาก battery จาก notebook น้อยกว่าทำให้เล่นนอกสถานที่ได้นานและต่อเนื่องกว่าการต่อผ่านมือถือ

ระบบ GPRS คืออะไร / เทคโนโลยี GPRS หมายถึง / ความเร็ว GPRS

เทคโนโลยี GPRS พัฒนามาจากอะไร ระบบ GPRS คืออะไร และมี ความเร็ว เท่าไร

ในช่วงเริ่มต้นของระบบ GSM ( อาจเรียกว่าช่วง 1G ) โทรศัพท์มือถือที่ใช้จะเป็นระบบ Analog ซึ่งไม่สามารถใช้รับส่ง Data อะไรได้เลย สามารถใช้โทรศัพท์พูดคุย ( Voice ) ได้อย่างเดียว ซึ่งต่อมาได้พัฒนามาเป็นระบบ 2G

ระบบ 2G จะใช้การรับส่งข้อมูลเป็นแบบ Digital ซึ่งทำให้สามารถรับส่งข้อความ SMS จากเครื่องมือถือได้ เรียกได้ว่าเป็นยุคเริ่มต้นของการใช้โทรศัพท์มือถือ ในการรับส่ง Data สำหรับท่านที่อยู่ในช่วงนี้น่าจะจำกันได้ว่าโทรศัพท์มือถือ จะมีราคาถูกลงมาก จากเครื่องละเป็นแสน เหลือแค่ 2-30,000 บาท

ต่อมา เนื่องจากมีการใช้โทรศัพท์มือถือ รับส่ง Data มากขึ้น เช่นการ download ringtone รูปภาพ ทำให้มีการพัฒนาระบบ เพื่อให้รองรับการรับส่ง package ข้อมูลจำนวนมากขึ้น ระบบ 2.5Gจึงได้ถูกพัฒนาขึ้น เป็นต้นกำเนิดของระบบ GPRS โดย GPRS นี้จะสามารถเชื่อต่อกับ Operator เพื่อรับส่ง ข้อมูล Date ได้ที่ประมาณ 50Kbps ถ้ายังจำกันได้ ช่วงนี้การรับส่ง MMS จะเริ่มเป็นที่นิยม เพราะระบบ GPRS สามารถรองรับการรับส่ง Data จำนวนมากขึ้นได้

ระบบ EDGE คืออะไร / เทคโนโลยี EDGE หมายถึง / ความเร็ว EDGE

เทคโนโลยี EDGE พัฒนามาจากอะไร ระบบ EDGE คืออะไร และมี ความเร็ว เท่าไร

ระบบ EDGE หรือที่เรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า 2.75G ซึ่งเป็นระบบที่ออกมาขั้นกลางระหว่างระบบ 2G กับ 3G ซึ่งเป็นระบบที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

โดย ระบบ EDGE นั้นจะพัฒนาจาก ระบบ GPRS ให้ความสามารถรับส่งข้อมูลต่อ slot สูงขึ้น โดยถ้าพัฒนากันจริงๆ สามารถรับส่งข้อมูลได้สูงสุดถึง 473.6Kbps แต่สำหรับเมืองไทยนั้น ความเร็วสูงสุดของ EDGE ที่ Operator ปล่อยออกมานั้นจะอยู่ที่ 220 - 236.8Kbps เท่านั้น ( ต่อให้โทรศัพท์มือถือ หรือ AirCard เครื่องไหนที่สามารถรับสัญญาณ EDGE ได้ 473.6 แต่ connect จริงก็จะไม่เกิน 220Kbps เท่าที่ Operator ปล่อยออกมา )

ระบบ 3G คืออะไร / เทคโนโลยี 3G หมายถึง / ความเร็ว 3G

เทคโนโลยี 3G พัฒนามาจากอะไร ระบบ 3G คืออะไร และมี ความเร็ว เท่าไร

ระบบ 3G ( UMTS ) นั้นคือการนำเอาข้อดีของ ระบบ CDMA มาปรับใช้กับ GSM เรียกว่า W-CDMA ซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัท NTT DoCoMo ของญี่ปุ่น

สำหรับเมืองไทยนั้น ระบบ 3G จะเป็น เทคโนโลยีแบบ HSPA ซึ่งแยกย่อยได้เป็น HSDPA , HSUPA และ HSPA+

HSDPAนั้นจะสามารถ รับส่งข้อมูลได้สูงสุดที่ Download 14.4 Mbps / Upload 384 Kbps. ( ปัจจุบันผู้ให้บริการทั่วโลกยังให้บริการอยู่ที่ Download 7.2Mbps เท่านั้น )
HSUPAจะเหมือนกับ HSDPA ทุกอย่างแต่การ Upload ข้อมูลจะวิ่งที่ความเร็วสูงสุด 5.76 Mbps
HSPA+ เป็นระบบในอนาคต การ Download ข้อมูลจะอยู่ที่ 42 Mbps / Upload 22 Mbps

สำหรับในเมืองไทยนั้น ระบบ 3G ( HSPA ) ที่ Operator AIS หรือ DTAC นำมาใช้จะเป็น HSDPA โดยการ Download จะอยู่ที่ 7.2Mbps ซึ่งน่าจะได้ใช้กันในไม่ช้า

ข้อควรระวังในการเลือกซื้อ AirCard แบบที่รองรับ 3G คลื่นความถี่ 3G ที่ใช้กันทั่วโลก จะใช้อยู่ 3 ความถี่ที่เป็นมาตราฐานคือ 850 , 1900 และ 2100 ซึ่งเมืองไทยจะแบ่งเป็นดังนี้

คลื่นความถี่ ( band ) 850 จะถูกพัฒนาโดย Dtac และ True
คลื่นความถี่ ( band ) 900 จะถูกพัฒนาโดย AIS (ใช้ชั่วคราวที่เชียงใหม่ และ Central World)
คลื่นความถี่ ( band ) 2100 กำลังรอ กทช. ทำการประมูลเพื่อจัดสรรคลื่นความถี่
คลื่นความถี่ ( band ) 1900 จะถูกพัฒนาโดย TOT

ดังนั้นการเลือกซื้อ AirCard , Router หรือ โทรศัพท์มือถือ และต้องการให้รอบรับ 3G ควร check ให้ดีก่อนว่าสามารถรองรับได้ทั้ง 3 คลื่นหรือเพียงบางคลื่นเท่านั้น

ก่อนซื้อ check Slot ของ notebook ก่อนว่าเป็น PCMCIA หรือ Expresscard

   

ก่อนซื้อ AirCard ทุกตัวขอแนะนำให้ check slot ที่ติดมากับ Notebook ตัวเองเพื่อความสะดวกและประหยัดเวลา จากรูปด้านล่าง จะเห็นว่ามีมี slot ของ notebook อยู่ 3 แบบ ด้านซ้ายสุดจะเรียกว่า PCMCIA slot เป็น slot ทั่วไปที่มีอยู่ใน notebook รุ่นก่อนปี 2549 จะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ส่วนรูปที่ 2 และ 3 จะเป็น slot ที่เรียกว่า ExpressCard, notebook รุ่นใหม่ๆส่วนมากที่ผลิตหลังปี 2549 จะมีแต่ slot Express ติดมาให้ รูปทรงจะเป็นสี่เหลี่ยมมีรอยหยักเข้าไปตามภาพ จึงขอแนะนำให้ผู้ที่สนใจซื้อ AirCard ทำการ check slot ของ notebook ตัวเอง เพื่อซื้อให้ถูกรุ่น ถ้า notebook ใส่ได้ทั้ง 2 slot ขอแนะนำเป็นตัว PCMCIA ที่มีราคาถูกกว่า แต่ถ้ามีแต่ Express slot จำเป็นต้องซื้อเป็น Expresscard หรือ USB เท่านั้น แต่ถ้ามีเครื่อง compter หลายเครื่อง ขอแนะนำ AirCard แบบ USB ที่สามารถใช้ได้กับคอมทุกเครื่อง ที่มี port USB
ขั้นแรก : ถอดพลาสติกกันฝุ่นที่อยู่ด้านข้างของ notebook (อาจอยู่ด้านซ้ายหรือขวา ขึ้นอยู่กับรุ่น)

ขอบคุณ: http://www.sanook.com สำหรับข้อมูล

หากมีอะไรดีๆ จะเอามาเขียนอีกครับ
ค้นหาข้อความทั้งหมดของสมาชิกท่านนี้
อ้างถึงข้อความนี้ในการตอบกระทู้
ตอบกระทู้ 


** ข้อแตกต่างระหว่างการตอบกระทู้โดยใช้กล่อง comment ของ Facebook กับกล่องตอบข้อความของทางเว็บ


ไปยังหัวข้อ:


ผู้ที่กำลังดูกระทู้นี้: 2 ผู้เยี่ยมชม