สำหรับคนรุ่นใหม่แล้ว นอกจากการเลือกอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม อีกหนึ่งตัวเลือกที่หลายๆ คนให้ความสนใจก็คือการเลือกซื้อโครงการทาว์นโฮมในกรุงเทพฯ เพราะมีข้อดีในเรื่องของพื้นที่ที่ได้มากกว่าคอนโดมิเนียมแล้ว หากอยากสร้างครอบครัวมีเจ้าตัวน้อย ทาว์นโฮมก็ยังสะดวกต่อการปรับพื้นที่ในการอยู่อาศัยได้ง่ายกว่าอีกด้วย
แต่ในการเลือกซื้อ
โครงการทาว์นโฮมในกรุงเทพฯ นั้น นอกจากเรื่องของความคุ้มค่าในการอยู่อาศัยในระยะยาวแล้ว ยังมีปัจจัยในด้านอื่นๆ ที่จำเป็นจะต้องนำมาพิจารณาร่วมกันในการเลือกซื้อด้วย แต่จะมีเรื่องไหนบ้างวันนี้เรามีมาบอกกันให้ครบ ติดตามกันได้เลย
1. ทำเลที่ตั้ง
คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกซื้อโครงการทาวน์โฮมในกรุงเทพฯ เพราะย่อมส่งผลต่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต โดยการเลือกทำเลที่ตั้งควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ใกล้กับสถานที่สำคัญ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า สถานีขนส่งสาธารณะ เป็นต้น เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและระบบขนส่งสาธารณะ และอยู่ในพื้นที่ที่มีความปลอดภัย
2. ขนาดและรูปแบบ
ขนาดและรูปแบบของทาวน์โฮมก็มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว ทาวน์โฮมจะมีขนาดตั้งแต่ 100-200 ตารางเมตร ขึ้นอยู่กับจำนวนห้องนอนและห้องน้ำ โดยควรเลือกขนาดและรูปแบบให้เหมาะสมกับความต้องการและสมาชิกในครอบครัวด้วย เพื่อให้การอยู่อาศัยของคุณตอบโจทย์กับความต้องการของทุกคน
3. ราคา
ราคาก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเช่นกันในการเลือกซื้อโครงการทาวน์โฮมในกรุงเทพฯ โดยควรเปรียบเทียบราคาของทาวน์โฮมในโครงการเดียวกันหรือโครงการใกล้เคียง เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพของบ้าน อีกทั้งยังจะต้องอยู่ในงบประมาณที่คุณได้ตั้งเอาไว้ด้วย
4. วัสดุที่ใช้ก่อสร้าง
วัสดุที่ใช้ก่อสร้างก็ส่งผลต่อคุณภาพของบ้านและอายุการใช้งาน โดยคุณควรเลือกทาวน์โฮมที่เลือกใช้วัสดุคุณภาพดี เพื่อให้บ้านแข็งแรง ทนทาน และใช้งานได้นาน ซึ่งอาจจะต้องศึกษาเพิ่มเติมที่ในแต่ละโครงการได้ระบุเอาไว้ เพราะทั้งนี้อย่าโฟกัสในเรื่องของราคาที่ถูกจนเกินไป เพราะอาจได้ทาวน์โฮมที่ไม่มีคุณภาพ และอาจจะต้องมีการซ่อมแซมบ้านอย่างไม่รู้จบในภายหลัง เพราะฉะนั้นควรศึกษารายละเอียดของโครงการให้ครบถ้วนก่อนเสมอ
5. สิ่งอำนวยความสะดวก
โครงการทาวน์โฮมในกรุงเทพฯ ในแต่ละโครงการยุคใหม่ มักมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และส่วนกลางมาให้อย่างครบถ้วน เช่น สวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส เป็นต้น ควรพิจารณาว่าสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ ตอบโจทย์กับความต้องการในการอยู่อาศัยของคนในครอบครัวหรือไม่ หากเราต้องอยู่อาศัยกับโครงการนี้ไปในระยะยาว
6. ชื่อเสียงของโครงการ
ควรเลือกโครงการจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงและมีผลงานที่ผ่านมาที่ดี เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับบ้านที่มีคุณภาพและคุ้มค่ากับการลงทุน
คำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกซื้อทาวน์โฮม
- ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับทาวน์โฮมจากแหล่งต่างๆ เช่น เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ นิตยสารอสังหาริมทรัพย์ รีวิวจากลูกค้า เป็นต้น
- ควรเข้าไปชมโครงการจริงอย่างน้อย 2-3 ครั้ง เพื่อเปรียบเทียบและตัดสินใจ
- ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อขอคำแนะนำ