ออกแดดได้ไม่ต้องกลัวแพ้ด้วยครีมกันแดดผิวแพ้ง่าย ผู้ช่วยที่ดีในการปกป้องผิวจากแสงแดด

[Jusmineys]

เชื่อว่าหลายคนคงเคยประสบปัญหาการแพ้ครีมกันแดดกันมาบ้างแล้ว เพราะคิดว่ายิ่งครีมกันแดดมีค่า SPF สูงก็จะยิ่งดีจนลืมเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง ทำให้เกิดการแพ้ขึ้นนั่นเอง การใช้ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า ควรมีค่า SPF อยู่ที่ 30 ในวันออกแดดน้อยและ SPF50PA+++ ในวันที่ออกแดดมาก ส่วนคนที่ผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง ควรเลือกใช้ ครีมกันแดดผิวแพ้ง่าย โดยเฉพาะ เพราะมีให้เลือกหลายสูตรหลายค่า SPF เช่นเดียวกัน

ครีมกันแดดผิวแพ้ง่าย คือครีมกันแดดที่ปราศจากสารเคมี น้ำหอม พาราแบน และสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ต่าง ๆ ทำให้มีความอ่อนโยนต่อผิว ปลอดภัยแม้ผิวแพ้ง่าย มีลักษณะเหมือนครีมกันแดดทั่วไป ผลิตออกมาทั้งแบบเนื้อครีม เนื้อเจล แบบน้ำ และแบบสเปรย์ ใช้ได้ดีเหมือนครีมกันแดดทั่วไป แต่จะอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า ผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่ายจึงนิยมเลือกใช้ กันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย เพราะใช้แล้วเห็นผลและไม่ทำให้เกิดอาการแพ้

ความสำคัญของการทาครีมกันแดด หลายคนมักคิดว่าการนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศและออกแดดเพียงไม่กี่นาทีไม่ต้องทาครีมกันแดดก็ได้ แต่หารู้ไม่ว่าการทำงานอยู่แต่ในห้องแอร์ก็มีแสงยูวีเข้ามาทำร้ายผิวเราได้เหมือนกัน การทา ครีมกันแดดกันน้ำ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและควรใช้ทั้ง ครีมกันแดดหน้า และครีมกันแดดผิวกายเพื่อช่วยปกป้องผิวให้เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล กระจ่างใสได้ในระยะยาว

โทษของการไม่ทาครีมกันแดด ในแสงแดดนั้นมีทั้ง UVA และ UVB อินฟราเรด รวมถึงแสงยูวีอื่น ๆ อีกหลายชนิด หากไม่ทาครีมกันแดดเลยจะทำให้แสงยูวีเหล่านี้เข้ามาทำร้ายผิวโดยจะไปทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวหนังให้เริ่มฝ่อตัวลงเรื่อย ๆ จนผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื่น อีกทั้งยังก่อให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำต่าง ๆ โดยจะยังไม่เกิดขึ้นในทันทีแต่จะค่อย ๆ ทำลายไปเรื่อย ๆ จนทำให้ผิวเกิดริ้วรอยและดูแก่กว่าวัยอันควร การทา ครีมกันแดดทาหน้า และผิวกายจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรหลีกเลี่ยงเลย

การใช้ครีมกันแดด หากเป็นคนผิวแพ้ง่ายอย่าลืมเลือก กันแดด สำหรับผิวแพ้ง่าย และเลือกค่า SPF ที่เหมาะสำหรับแต่ละวัน หากเป็นการอยู่บ้าน ไม่ค่อยได้ออกแดดเลย ควรเลือก SPF 15 – 25 แต่หากเป็นการออกจากบ้านแต่อยู่ในห้องแอร์มากกว่าควรเลือก SPF30 แต่ถ้าออกแดดบ่อยควรเลือก SPF50PA+++ เพื่อเสริมเกราะป้องกันให้แก่ผิว