ทริปเที่ยวปาลิโอ ปากช่อง และปลูกป่าที่เขาใหญ่

[Nobita]

สวัสดีครับ วันนี้มีทริปที่สุดสนุกแถมยังได้ทำประโยชน์ให้กับผืนป่า สัตว์ป่า อันเป็นที่รักของเราทุกคน... ฮู้วว ขึ้นต้นได้สวยเชียว เพื่อนร่วมทริปนี้รวมทั้งหมด 12 คน ด้วยจุดมุ่งหมายหลักคือการได้ไป “ปลูกป่า” ร่วมกัน และ ณ ตอนนี้ในเขาใหญ่ก็มีต้นไม้ที่พวกเราปลูกรวมอยู่ในเขาใหญ่แล้วเรียบร้อย... 555

เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า เมื่อวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ 25-26 ส.ค. 2555 ซึ่งเป็นวันหยุดธรรมดาๆ แต่เราทำให้ไม่ธรรมดาด้วยการนัดกันไปเที่ยว “เขาใหญ่” เป้าหมายปลายทางใหญ่ของทริปนี้เลยก็คือ “การปลูกป่าที่เขาใหญ่” เพื่อให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย ที่หาอาหารของสัตว์เล็กใหญ่ต่างๆ มากมายหลายชนิด

และเนื่องจากเรามากันจากหลายทิศหลายทาง ทั้งภาคกลาง ตะวันออก อีสาน ดังนั้นจุดนัดพบของเราก็เลยมาลงตัวที่ “ปาลิโอ” ปากทางก่อนขึ้นเขาใหญ่นั่นเอง... เพราะคิดว่าทุกคนน่าจะรู้จัก และไม่น่าหลงทาง ถ้าไม่พลาดจริงๆ หุหุ

ที่ปาลิโอนี่ก็คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณนะครับว่ามีไว้ทำอะไร ใช้ยังไง เพราะปาลิโอเขาออกจะดังปานนั้น แบบเรียกได้ว่าใครที่มาเที่ยวปากช่องหรือเขาใหญ่แล้วยังไม่เคยแวะปาลิโอ อันนี้ต้องพิจารณาตัวเองแล้วนะครับ 555

   

หลายๆ คนคงจะเคยมาชิลๆ กับการถ่ายรูปกับบรรยากาศสวยๆ ของปาลิโอ แต่สำหรับทริปนี้แล้ว ไม่ชิลครับ เพราะเราไม่ธรรมดาอยู่แล้ว นั่นก็คือ “ฝนตก” นั่นเอง แบบตกๆ หยุดๆ เป็นระยะๆ พอตกก็เข้าร่ม ฝนหยุดก็ออกไปถ่ายรูป อันนี้อินสุดๆ ลักษณะยังกับต่างประเทศยังไงยังงั้น มีทั้งตกหนักซู่... ตกเบาเปาะแปะ... ให้เลือกกันตามสบาย

   

   

[Nobita]

   

หลังจากถ่ายรูปกันจน (เปียก) พอใจแล้วเราก็มุ่งหน้าต่อตรงสู่จุดหมายต่อไป นั่นก็คือ “เขาใหญ่” นั่นเอง... อันดับแรกเมื่อถึงทางขึ้นเขาใหญ่ก็คือ... ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานแห่งชาติ โดยมีค่าบริการคนละ 40 บาทและรถคันละ 50 บาท

เมื่อชำระค่าธรรมเนียมแล้ว ขับรถตรงไปอีกนิดก็จะถึง “ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่” โดยเราก็ได้แวะไหว้สักการะศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่เพื่อความเป็นศิริมงคลและขอให้ทุกอย่างราบรื่นเรียบร้อยโดยดี

จากนั้นก็เดินทางกันต่อ เป้าหมายต่อไปคือ “ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เขาใหญ่” หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็น “ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เขาใหญ่” นั่นเอง...

ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เขาใหญ่หรือที่ทำการอุทยานฯ นี้ นอกจากจะเหมาะเป็นสถานที่นัดพบกันแล้วยังมีร้านอาหารจำหน่ายมากมายหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อีสาน เหนือ ใต้ ข้าวเหนียว ส้มตำ กาแฟและมินิมาร์ท เรียกได้ว่าครบครัน หากคุณลืมเตรียมของใช้บางอย่างขึ้นมา ที่นี่ก็พอมีให้บริการอยู่บ้างเหมือนกัน

สำหรับทริปนี้เราเดินทางมาถึงที่ทำการอุทยานฯ เขาใหญ่กันประมาณเที่ยงนิดๆ และยังไม่หิวมากเพราะทานอาหารเช้ากันมาบ้างแล้ว จึงขอไปเดินสำรวจป่าตามเส้นทางสำรวจป่าที่อยู่ใกล้ๆ กับที่ทำการฯ ระยะทางแค่ 1.2 กม เอง น่าสนๆ

   

แต่แล้วเมื่อพวกเราเดินกันไปได้ราว 1 ใน 4 ของระยะทางก็ต้องถอยหลังกลับ (อย่างรวดเร็ว...กึ่งเดินกึ่งวิ่ง) สาเหตุก็เพราะคุณ “ทาก” ที่มีอยู่มากมายตามสภาพความสมบูรณ์ของป่าเขาใหญ่.... ดังคำว่า … ที่ไหนทากมี ที่นั่นป่าสมบูรณ์ … แต่สำหรับงานนี้เราต้องขออภัย ขอตัวก่อนจริงๆ เพราะยังไม่ได้เตรียมตัว เตรียมอุปกรณ์ป้องกันอะไรเลย ลงรถปุ๊บก็เข้าป่ากันปั๊บแบบนี้ไม่ไหวๆ อย่าทำตามกันนะครับ ฮะๆๆ

[Nobita]

เมื่อวิ่งหนีคุณ “ทาก” ออกจากป่ากันแล้ว ระหว่างที่รอเพื่อนที่จะตามมาสมทบ เราก็ไปชมส่วนแสดงนิทรรศการของอุทยานฯ เขาใหญ่รอ จุดนี้จะเป็นจุดที่ให้ความรู้ ความเป็นมาของเขาใหญ่ ขายของที่ระลึก รวมถึง “ถุงกันทาก” อุปกรณ์ที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของการเดินป่าอีกด้วย

   

หลังจากเราเดินเที่ยวชมกันสักพักเพื่อนก็มาถึงจึงไปทานอาหารกันที่ ฝั่งร้านอาหารของที่ทำการฯ เขาใหญ่และเป็นมื้อแรกร่วมกันของทริปนี้

   

   

[Nobita]

หลังจากทานอาหารอิ่มหมีพีมันเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางไปยังบ้านพักที่ได้จองไว้ก่อนมาแล้ว (ในราคาสุดพิเศษ) ชื่อ “บ้านเนินเขา” ซึ่งอยู่ในกลุ่มบ้านทิวทัศน์

เคยมาเที่ยวเขาใหญ่ก็หลายครั้ง เคยทั้งแบบกางเต๊นท์ที่เขาใหญ่และแบบพักบ้านพัก แต่ในครั้งนี้ได้มาพักที่นี่ ยอมรับว่าประทับใจมากเหมือนกัน เพราะเป็นบ้านพักที่สะดวกสบาย มีระเบียงพื้นปูยกสูงหน้าห้อง มีหลังคากว้างขวางไม่หวาดหวั่นแม้วันฝนตกหนัก ส่วนห้องน้ำ ห้องนอน ก็สะดวกสบาย มี 2 ห้องน้ำ 2 ห้องนอน พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่นอีกต่างหาก :)

   

   

เมื่อเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อย ก็ได้เวลาออกสำรวจเขาใหญ่ในเบื้องต้น น้ำตกที่เป็นเหมือน Landmark ของเขาใหญ่ก็คงหนีไม่พ้น “น้ำตกเหวสุวัต” และในครั้งนี้ก็เช่นกัน เราก็ยังคงไปเก็บภาพที่น้ำตกเหวสุวัตเหมือนเคย

   

[Nobita]

   

   

เมื่อเที่ยวน้ำตกเสร็จแล้วเราก็กลับมายังที่พัก ที่นี่ไม่อนุญาตให้ประกอบอาหารตามกฎใหม่ของอุทยานแห่งชาติ แต่ก็ยังอนุโลมให้ทำเล็กๆ น้อยๆ ได้อยู่ กาฟงกาแฟ มาม่งมาม่าก็ไม่ว่ากัน หุหุ

   

[Nobita]

ทำอาหารเล็กๆ น้อยๆ ครับ ไม่เยอะน๊ะ...

   

กลางคืนผ่านพ้นไปไวเหมือนโกหก ตอนเช้าเป็นเช้าที่สดใสเพราะเมื่อคืนฝนตกโปรยปรายทั้งคืน ได้เวลาข้าวต้มร้อนๆ กาแฟหอมๆ ก่อนออกไปทำกิจกรรมสุดยิ่งใหญ่ ท้าฝนท้าทาก นั่นก็คือ “ปลูกป่า” นั่นเอง ต้องขอขอบคุณทีมแม่ครัวสำหรับอาหารแสนอร่อยทั้งมื้อเย็นและมื้อเช้า...

   

เมื่อเก็บข้าวของขึ้นรถเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาจะไปตื่นเต้นกับการปลูกป่าแบบภาวนาว่า ฝนจ๋า อย่าตกน๊า....

รูปท่าเตรียม...พร้อม...!
   

[Nobita]

9.00 น. เป็นเวลาที่นัดกับพี่เจ้าหน้าที่ที่จะพาเข้าไปปลูกป่า สำหรับเช้านี้เราไม่พลาดแล้ว เพราะเรามี... ถุงกันทาก... คู่ละ 70 บาท หาซื้อได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ

   

ยังมีเวลาอีกนิดหน่อย ขอเล่นกันหน่อยล่ะกัน

   

ระหว่างทางไปป่ายังไม่เว้น... ทุกคนพร้อมมั๊ยยยย...

   

[Nobita]

เราขับรถตามรถของพี่เจ้าหน้าที่ไปจนถึงบริเวณจุดทางเดินเข้าป่าเพื่อที่จะเข้าไปปลูกป่า เมื่อจอดรถไว้ริมทางเสร็จก็เดินตามกันเข้าป่าไป สายตาไม่ต้องมองไกล มองลงไปที่พื้นอย่างเดียว... มีทากรึป่าวหว่า.... หุหุ นั่นคือสิ่งที่เราทุกคนมองหากัน

   

รถที่เห็นในรูปนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อนั่งเข้าป่านะครับเพราะมีไว้ขนของ อุปกรณ์ จอบ เสียม ส่วนคนรึ เดินครับเราต้องเดินเข้าไปเอง... แต่สู้...

   

เมื่อใกล้ถึงบริเวณปลูกป่า เจ้าหน้าที่ก็จะอธิบายถึงความสำคัญและชนิดของต้นไม้ที่เราจะปลูก ว่าสำคัญกับป่าบริเวณนั้นอย่างไร สำหรับในครั้งนี้เราได้ปลูก “ต้นหวาย” กันครับ ซึ่งก็เป็นพืชอาหารสัตว์และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ได้ด้วย

   

[Nobita]

เมื่อทุกคนเข้าใจดีแล้วก็ได้เวลาออกแรง เริ่มจากขนของเข้าป่ากันไป เอ้า ลงมือได้...

   

จากนั้นเราก็เดินต่อไปอีกนิด พร้อมกับอุปกรณ์จอบเสียมและต้นไม้ที่จะปลูกในวันนี้ เมื่อไปถึงพิกัดก็ลงมือกระหน่ำกันเลย พร้อมๆ กับเสียงกรี๊ดกร๊าด ทาก... ทาก... ทาก... กันเป็นระยะ

   

   

[Nobita]

พนักงานขุด ขุด พนักงานปลูก ปลูก ทำงานกันเป็นทีม

   

ใช้เวลาประมาณเกือบชั่วโมงก็เสร็จสิ้นภารกิจปลูกป่า จริงๆ เท่าที่ดูแล้วทุกคนยังไม่เหนื่อย เพราะกิจกรรมแบบนี้ทำหลายๆ คนแล้วจะสนุก ลืมความกลัวเรื่องทากไปได้...บ้าง...นิดหนึ่ง

ขอถ่ายรูปกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อธรรมชาติในครั้งนี้ไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อย...

   

เมื่อออกจากป่า ก่อนขึ้นรถกลับกรุณาสำรวจโดยรอบตัวให้พร้อม เพราะจะพบทากแอบเกาะมาอยู่ตามรองเท้า สายรองเท้า หรือแม้แต่ในรองเท้า เกาะกางเกง เป็นต้น ดังนั้น หากกลัวว่าจะนำสัตว์เหล่านี้ออกจากป่า กรุณาสำรวจโดยละเอียด 555

   

[Nobita]

หลังจากนั้นเราก็กลับมาที่ที่ทำการอุทยานฯ อีกครั้งเพื่อรับประทานอาหารร่วมกัน เคลียร์ตังค์กัน ถ่ายรูปกัน ก่อนกลับยังถิ่นฐานแยกย้ายกันทำงาน จนกว่าจะได้พบกันอีกในทริปหน้าต่อไป

   

แล้วอย่าลืมติดตามพบกับพวกเราอีกครั้งทริปหน้านะครับ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบครับ หากมีคอมเมนต์ก็เชิญได้เลยนะครับ และเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ แล้วเจอกันทริปหน้าครับ...