สาว ๆ เคยสังเกตหรือสงสัยบ้างไหมว่า ในรอบเดือนหนึ่ง ๆ ทำไมเราถึงต้องมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นประจำอาจจะก่อนหรือหลังการมีประจำเดือน ได้แก่ เป็นสิว ปวดหัว นอนไม่หลับ เหงื่อออกมาก ปวดเมื่อยตามร่างกาย น้ำหนักขึ้น บวม ผมร่วง ปวดท้อง หิวบ่อย ขี้ลืม เจ็บคัดเต้านม หงุดหงิด อารมณ์เสียง่าย ฯลฯ
ทราบไหมคะ อาการเหล่านี้เป็นอาการที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหลายชนิดในร่างกายของเรา เช่นฮอร์โมนเอสโตรเจน ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน ฮอร์โมนไทรอยด์ ฮอร์โมนอินซูลิน เป็นต้น
ในเพศหญิงจะมีฮอร์โมนสำคัญอยู่หลายตัว ได้แก่ ฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และจะมีเพิ่มมากขึ้นเมื่อเริ่มเป็นวัยรุ่น เป็นฮอร์โมนเพศที่ทำให้ผู้หญิงมีสรีระเป็นผู้หญิงอย่างโดดเด่นและชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเริ่มสาว การเริ่มมีประจำเดือน มีหน้าอก สะโพกผาย ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ล้วนเกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนนั่นเอง
นอกจากฮอร์โมนเพศหญิงหรือฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนแล้ว ในตัวผู้หญิงก็ยังมีฮอร์โมนเพศชายคือฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนอยู่ด้วยจะมากหรือน้อยแตกต่างกันไป ผู้หญิงคนใดมีฮอร์โมนเพศชายอยู่เยอะ ก็จะแสดงออกทางกายภาพได้แก่ สิวเยอะ หน้ามัน ผมมัน ขนดก เป็นต้น
ฮอร์โมนเหล่านี้ร่างกายจะผลิตไม่คงที่และเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงมีอาการที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น เป็นอาการที่เรียกว่า อาการ PMS (Premenstrual Syndrome) หรือกลุ่มอาการก่อนหรือหลังการมีประจำเดือนนั่นเอง ได้แก่ เป็นสิว ปวดหัว นอนไม่หลับ เหงื่อออกมาก ปวดเมื่อยตามร่างกาย น้ำหนักขึ้น บวม ผมร่วง ปวดท้อง หิวบ่อย ขี้ลืม เจ็บคัดเต้านม หงุดหงิด อารมณ์สียง่าย ฯลฯ ซึ่งเกิดมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอรโมนภายในร่างกาย มักเจอได้ในผู้หญิงเกือบ 80% เลยทีเดียว
อาการเหล่านี้ รักษาได้หรือไม่
ปัจจุบันมียาชนิดหนึ่งที่เป็นตัวช่วยรักษาอาการ PMS ได้ นั่นก็คือ ยาปรับฮอร์โมน หรือรู้จักกันในชื่อของ ยาคุมกำเนิด นั่นเอง
ยาปรับฮอร์โมนหรือยาคุมกำเนิด นอกจากจะเป็นยาช่วยป้องกันหรือยับยั้งการตั้งครรภ์ได้แล้ว ยังสามารถกินเป็นยาปรับฮอร์โมนทำให้ผู้หญิงมีฮอร์โมนเป็นปกติในระหว่างหรือก่อนหรือหลังการมีประจำเดือน ทำให้บรรเทาอาการ PMS ให้น้อยลงได้ อีกทั้งยาปรับฮอร์โมนรุ่นใหม่ยังลดอาการข้างเคียงที่เกิดจากการกินยาคุมกำเนิดอีกด้วย ใครที่กลัวอ้วน ยาปรับฮอร์โมนก็สามารถเป็น ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน) ได้
จะเห็นได้ว่ายาปรับฮอร์โมนหรือยาคุมกำเนิดปัจจุบัน นอกเหนือจากจุดประสงค์หลักคือการคุมกำเนิดแล้ว ก็ยังมีการปรับให้มีประโยชน์อื่น ๆเป็นผลพลอยได้อีกหลายประการ อย่างไรก็ตาม การจะได้รับผลจากยาปรับฮอร์โมนอย่างเต็มประสิทธิภาพได้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับวิธีกินยาคุมของเราเป็นสำคัญ กล่าวคือ ต้องเลือกชนิดที่เหมาะสมกับตัวเอง กินถูกต้อง ต่อเนื่องและตรงเวลา ถึงจะมีประสิทธิภาพดีที่สุด
รู้ได้อย่างไรว่า เราเหมาะกับยาปรับฮอร์โมนชนิดไหน
ยาปรับฮอร์โมน จะมีทั้งชนิดที่เป็นฮอร์โมนรวมและฮอร์โมนเดี่ยว ชนิดฮอร์โมนรวม เช่น ee20d ee30d และ ee35c ฯลฯ ซึ่งใครจะกินแบบไหนยี่ห้อใดก็ต้องดูลักษณะทางกายภาพและปัญหาของแต่ละคน เช่น คนเป็นสิว หน้ามัน ขนดก ก็จะเหมาะกับ ee35c กลัวอ้วนหรือเพิ่งกินเป็นครั้งแรกก็จะเหมาะกับชนิด ee20d ee30d เป็นต้น
ส่วนยาปรับฮอร์โมนชนิดฮอร์โมนเดี่ยว เช่นยาคุมกำเนิดแบบมีโปรเจสตินอย่างเดียว (หรือบางทีก็เรียกว่า มินิพิลล์, POP ) จำกัดใช้เฉพาะผู้หญิงที่กำลังให้นมบุตรและสำหรับผู้หญิงที่ไม่สามารถกินยาแบบฮอร์โมนรวมได้
ยาปรับฮอร์โมนในท้องตลาดมีหลากหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็จะมีฤทธิ์และคุณสมบัติแตกต่างกัน แล้วแต่ว่าจะมีตัวฮอร์โมนหรือยาที่เป็นส่วนประกอบอยู่เท่าใด เช่น
ยาคุมช่วยหน้าใส ยาคุมปรับฮอร์โมนต่ำ เป็นต้น ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย เลือกยาให้ตรงจุดประสงค์และเหมาะกับร่างกายของเรา จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อน จะดีที่สุดค่ะ
ชมข้อมูลเพิ่มเติมที่
https://www.jeab.com/fit-firm/fit-life/e...trol-pills
หน้าแรก
ข้อมูลท่องเที่ยว
เดือนนี้เที่ยวไหนดี
รายชื่อสมาชิก
ช่วยเหลือ
/
ยาปรับฮอร์โมน ประโยชน์ที่มากกว่าการคุมกำเนิด
