ทำความรู้จักกับ เงินสมทบชราภาพ ที่ทุกคนควรรู้เพื่ออนาคตที่ดี

[muthita]

เงินสมทบชราภาพ เป็นเงินเก็บสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ในแต่ละเดือนเพื่อที่จะนำเงินเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ได้ในช่วงวัยเกษณียนนั้นเอง แต่จะมีบุคคลหลายท่านที่ยังไม่รู้จักสำหรับเงินสมทบนี้ แต่ในวันนี้เราจะมาอธิบายให้กับบุคคลหลายท่านได้ทราบว่าเงินสมทบนี้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง และจะได้รับกันอย่างไร และจะมี เงินบำเหน็จประกันสังคม ที่หลายท่านต่างรู้จักกันด้วย แต่ทั้งสองนี้จะมีความแตกต่างกันกัน
เงินสมทบประกันสังคมซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มได้แก่ ค่ารักษาพยาบาล ประกันว่างงาน และเงินชราภาพ ซึ่งจะได้รับเมื่อเกษียณ ซึ่งจะได้รับ 3% จากฐานเงินเดือน ผู้ที่จะได้รับเงินชราภาพจะมีดังนี้
- เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือประกันตนมาตรา 39
- มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
เงินประกันในวัยชราภาพมีด้วยกัน 2 แบบ คือ เงินบำเหน็จ และ เงินบำนาญ ซึ่งทั้งสองแบบนี้จะขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกจ่ายแบบใด ระยะเวลาในการส่งซึ่งจะมีเงื่อนไขต่างๆอีกด้วยซึ่งเงิน บำเหน็จชราภาพ จะต้องจ่ายเงินสมทบไม่เกิน 180 เดือน หรือ 15 ปี แบ่งเป็น 2 กรณี คือ จ่ายน้อยกว่า 12 เดือน จะได้รับบำเหน็จเท่ากับเงินที่จ่ายสมทบ หากจ่ายมากกว่า 12 เดือน แต่ไม่ถึง 180 เดือน จะได้บำเหน็จเท่ากับเงินที่เราจ่ายสมทบ ส่วนเงินบำนาญชราภาพ จะจ่ายสมทบมากกว่า 180 เดือน หรือ 15 ปี จะติดต่อกันหรือไม่ก็ได้
ซึ่งสิทธิในการได้รับประโยชน์
- เงินบำเหน็จ จ่ายเป็นก้อนแค่ครั้งเดียว
- เงินบำนาญ จ่ายเป็นรายเดือนตลอดชีวิต
การตรวจเงินสมทบสำหรับผู้ที่ต้องการเช็คยอดเงินสะสมสามารถตรวจสอบได้โดย
- ติดต่อสอบถามโดยตรงที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาที่สะดวก
- โทรหรือสอบถามสายด่วนประกันสังคม 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง
หากท่านใดที่ต้องการจะทำประกันตนชราภาพระหว่าง เงินสมทบชราภาพ และบำเหน็จประกันสังคม นั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบุคคลว่าต้องการเงื่อนไขอย่างไร ซึ่งความแตกต่างของทั้งสองแบบนี้จะแตกต่างกันที่เงินบำเหน็จนั้นเราจะได้เงินเป็นก้อนใหญ่ไปใช้ ซึ่งแตกต่างจากเงินบำนาญที่จะทยอยได้แค่เดือนละไม่กี่พันแต่จะดีกว่าที่ได้รับเงินไปเรื่อยๆตลอดชีวิต ในการได้รับเงินบำเหน็จจะขึ้นอยู่กับจำนวนปีที่ส่งเงินสมทบและจะได้รับในเมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และจะต้องลาออกจากการทำงานและจากประกันสังคม แต่ถ้าหากว่าท่านเที่ไม่ลาออกจากงานหรืออายุครบ 55 ปีแล้ว ท่านก็จะไม่ได้รับเงินส่วนนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของแต่ละบุคคลด้วยว่าต้องการได้รับประโยชน์แบบใด แต่รับประกันได้เลยว่าการที่เรามีเงินประกันสังคมนั้นสามารถนำเงินสมทบเหล่านี้ไปใช้จ่ายเมื่อยามจำเป็นหรือเมื่อขาดแคลนได้ ซึ่งเราจะพบเห็นว่าประกันสังคมนั้นส่วนใหญ่แล้วมนุษย์เงินเดือนหลายท่านจะรู้จักและเข้าใจกันเป็นอย่างดี ซึ่งถือได้ว่าเป็นข้อดีที่สุดแล้วในการเก็บเงินสมทบเพื่อใช้ประโยชน์ในวัยเกษียณ หากบุคคลใดที่ไม่เข้าใจในเรื่องเงินชราภาพ เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านบทความนี้จะสามารถทำความเข้าใจได้และสามารถเลือกประโยชน์ที่ท่านจะได้รับระหว่างเงินชราภาพหรือเงินบำเหน็จที่ท่านจะได้รับนั้นเอง