งานประเพณีไหลเรือไฟ นครพนม ปี 2552
วันที่ 29 ก.ย. 2552 - 5 ต.ค. 2552
ณ บริเวณศาลากลางจังหวัด และริมเขื่อนถนนสุนทรวิจิตร อำเภอเมือง จังหวัด
นครพนม
** กำหนดการและกิจกรรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนการเดินทางท่องเที่ยวนะครับ **
กิจกรรม
มหกรรมไหลเรือไฟ การลอยกระทงสาย งานพาแลง และมหรสพต่างๆ รำบูชาพระธาตุพนมของสาวงาม 7 เผ่า การแห่ขบวนปราสาทผึ้ง เรือไฟบก แข่งขันเรือยาว พาข้าวแลง ชมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรม การออกร้านจำหน่ายสินค้านานาชนิด
สอบถามรายละเอียด
- สำนักงานจังหวัดนครพนม
โทรศัพท์ 0 4251 1287, 0 4251 1574
- สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
โทรศัพท์ 04251 1730, 04252 0797
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม
โทรศัพท์ 0 4251 3490-1
ความเป็นมาของประเพณีไหลเรือไฟ
ประเพณีไหลเรือไฟเป็นประเพณีสำคัญอย่างหนึ่งที่ชาวอีสานสืบทอดปฏิบัติใน เทศกาลออกพรรษา ทำกันในวันขึ้น 15 ค่ำถึงแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ตามแม่น้ำลำคลอง จังหวัดที่มีการไหลเรือไฟปัจจุบันคือ จังหวัดศรีสะเกษ สกลนคร นครพนม หนองคาย เลย และอุบลราชธานี โดยเฉพาะชาวนครพนมนั้นถือเป็นประเพณีสำคัญมาก เมื่อใกล้จะออกพรรษาชาวบ้านจะแบ่งกันเป็น “คุ้ม” โดยยึดถือเอกชื่อวัดใกล้บ้านเป็นหลักในการตั้งชื่อคุ้ม เช่น ถ้าอยุ่ใกล้วัดกลางก็จะเรียกกันว่า “ชาวคุ้มวัดกลาง” ชาวคุ้มวัดต่าง ๆ ก็จะจัดให้มีการแข่งเรือ ส่วงเฮือ แห่ปราสาทผึ้ง และการไหลเรือไฟ
เรือไฟ หรือภาษาถิ่นเรียกกันว่า “เฮือไฟ” นี้เป็นเรือที่ทำด้วยต้นกล้วยท่อนกล้วยหรือไม้ไผ่ ต่อเป็นลำเรือยาวประมาณ 5 - 6 วา ข้างในบรรจุขนม ข้าวต้มผัดหรือสิ่งของที่ต้องการบริจาคทาน ข้างนอกเรือมีดอกไม้ ธูปเทียน ตะเกียง ขี้ไต้ สำหรับจุดให้สว่างไสวก่อนจะปล่อยเรือไฟ ซึ่งเรียกว่า การไหลเรือไฟ หรือ ปล่อยเฮือไฟ
มูลเหตุของการไหลเรือไฟนั้นมีคตินิยมเช่นเดียวกับการลอยกระทง แต่เป็นการลอยกระทงก่อนที่อื่น 1 เดือน โดยมีความเชื่อกันหลายประเด็นคือ
- ความเชื่อเกี่ยวกับการบูชารอยพระพุทธบาทที่ประทับไว้ ณ หาดทรายริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที
- ความเชื่อเกี่ยวกับการบูชาพระรัตนตรัย
- ความเชื่อเกี่ยวกับการบูชาคุณพระแม่คงคา
- ความเชื่อเกี่ยวกับการบูชาพญานาค
ชาวนครพนมได้ผสมผสานความเชื่อถือในการไหลเรือไฟไว้ด้วยสาเหตุหลายอย่าง และเนื่องจากลักษณะทำเลภูมิประเทศแม่น้ำโขงหน้าเมืองนครพนมนั้นสวยงามมาก โดยเฉพาะในวันเพ็ญ เดือน 11 ท้องฟ้าแจ่มใสอากาศเย็นสบาย ชาวนครพนมจึงได้ร่วมใจกันฟื้นฟูประเพณีไหลเรือไฟให้เป็นประเพณีสำคัญของ จังหวัดเมื่อ พ.ศ. 2523 มีงานรวม 4 วัน ตั้งแต่วันขึ้น 12 -15 ค่ำ แต่วันที่สำคัญที่สุดคือ วันสุดท้าย ซึ่งเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 มีการไหลเรือไฟลงสู่แม่น้ำโขงอย่างมโหฬาร
พิธีและกิจกรรม
ก่อนถึงวันงานไหลเรือไฟ ชาวคุ้มวัดจะช่วยกันประดิษฐ์ตกแต่งเรือไฟด้วยต้นกล้วย ไม้ไผ่หรือวัสดุอย่างใดอย่างหนึ่งที่สามารถลอยน้ำได้ ให้มีรูปร่างลักษณะเหมือนเรือมีความยาวไม่น้อยกว่า 6 เมตร จะประดิษฐ์เป็นรูปเจดีย์ วิหาร หงส์ นาค ครุฑ หรือรูปอย่างใดก็ได้ที่คิดว่าสวยงาม มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้เพื่อความสวยงามและเพื่อให้การจุดประทีป โคมไฟอยู่ได้ทนทาน เมื่อถึงวันงาน ภาคกลางวันก็จะมีขบวนแห่ไหลเรือไฟบก ซึ่งนำขึ้นไปวางบนพาหนะล้อเลื่อนต่าง ๆ แล้วเข้าขบวนแห่แหนทุกคุ้มวัดพร้อมกัน โดยมีการแสดงพื้นบ้านประกอบขบวนอย่างสนุกสนานสวยงาม ในขณะนั้นคณะกรรมการตัดสินก็จะให้คะแนนผู้ที่จัดส่งเรือไฟเข้าประกวดด้วย ขบวนแห่เรือไฟในภาคกลางคืน ก็จะมีการทำพิธีกรรมทางศาสนา เช่น กราบพระ รับศีล ฟังเทศน์ และการกล่าวบูชารอยพระพุทธบาท ต่อจากนั้นจึงนำเรือไฟไปลงน้ำ และเริ่มจุดประทีปโคมไฟแล้วปล่อยให้ล่องไปตามแม่น้ำโขงลงไปทางทิศใต้