หุ้นเทสลาร่วง หลังเข้าคำนวณดัชนี S&P 500
ราคาหุ้นของบริษัท เทสลา ปรับตัวลดลงทันทีที่ได้รับเข้าคำนวณเกณฑ์มาตรฐาน
S&P 500 เป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากแรงอุปสงค์ที่ดันราคาหุ้นอยู่ก่อนหน้าการได้รับเข้าคำณวนดังกล่าวเริ่มแผ่วลง
หุ้นของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าปรับตัวลดลงถึง 5.1% ทันทีที่เปิดตลาดในช่วงเช้าของวันจันทร์ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนบางส่วนอาจเทขายหุ้นหลังจากมีการเพิ่มชื่อของบริษัทเทสลาเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานของดัชนี S&P 500 การปรับตัวลดลงของราคาหุ้นของบริษัท เทสลา ซึ่งถือเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 6 ในดัชนีมูลค่าตลาด คิดเป็นมูลค่าน้อยกว่า 0.1% ของการปรับลดลง 1.2% ของดัชนี S&P 500
การปรับลดราคาของหุ้นดังกล่าวอาจประจวบเหมาะกับการปรับลดของราคาหุ้นทั่วไปเป็นวงกว้าง เนื่องจากนักลงทุนต่างมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดของโรคโคโรนาไวรัสในประเทศอังกฤษที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นและการประกาศล็อกดาวน์ครั้งใหม่ที่มีความเข้มงวดเพิ่มขึ้นด้วย แต่ถึงกระนั้นการปรับตัวลดลงของหุ้นบริษัทเทสลาในครั้งนี้คิดเป็นสัดส่วนที่เล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับมูลค่าหุ้นตลอดทั้งปีที่เพิ่มขึ้นถึง 687% และทำลายสถิติเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 6% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากมีข่าวว่าดัชนี S&P Dow Jones จะจัดบริษัทเทสลาเข้าในกลุ่มการคำณวนดัชนีหุ้นด้วยน้ำหนัก 1.7% โดยทุกการเปลี่ยนแปลงทั้งขาขึ้นและขาลงของหุ้นเทสลาที่ 11.11 ดอลลาร์ จะส่งผลให้ดัชนี S&P 500 เปลี่ยนแปลง 1 จุด
นักวิเคราะห์หุ้นจาก Goldman Sachs Group Inc. คาดการณ์ว่าการนำหุ้นของเทสลาเข้ามาคำณวนในดัชนี S&P 500 จะเพิ่มค่าความผันผวนให้กับดัชนีความผันผวน Cboe Volatility Index (VIX) ราว 0.25 จุด ด้านนักลงทุนส่วนหนึ่งมองว่าการรวมหุ้นของเทสลาไว้ในการคำณวนดัชนี S&P 500 จะส่งผลกระทบต่อตลาดอนุพันธ์ทั้งสำหรับหุ้นของเทสลาและดัชนี S&P 500 เอง
นักลงทุนที่มีความเชื่อมั่นในผลประกอบการระยะยาวของบริษัทเทสลาส่วนหนึ่งออกมาแสดงความคิดเห็นว่าพวกเขาเตรียมพร้อมที่จะรับข่าวราคาหุ้นปรับตัวลดลงหลังจากมีข่าวว่าบริษัทจะถูกจัดเข้ากลุ่ม S&P 500 อยู่แล้ว เนื่องจากแรงอุปสงค์ของนักลงทุนประเภทรอรับผลเริ่มแผ่วลง ในขณะที่นักลงทุนที่กลัวความเสี่ยงต่างแสดงความกังวลว่าหุ้นของเทสลามีแนวโน้มคล้ายกับฟองสบู่ที่กำลังจะแตก
อย่างไรก็ดี การที่บริษัทเทสลาถูกนำเข้าไปคำณวนในดัชนี S&P 500 นั้นถือเป็นก้าวสำคัญอีกครั้งหนึ่งของการเติบโตของบริษัท ซึ่งจะทำให้การระดมทุนหรือการเพิ่มทุนของบริษัทเทสลาในอนาคตจากนักลงทุนสถาบันเป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้น และจะทำให้การขยายกิจการต่างๆ ที่เทสลามีโครงการอยู่มากมายมีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน หลังจากนี้นักลงทุนคงต้องจับตามองวิสัยทัศน์ของอีลอน มัสก์ ว่าจะบริหารและพัฒนาบริษัทเทสลาต่อไปในทิศทางใด