ตอบกระทู้ 
 
คะแนนกระทู้:
  • 0 Votes - 0 Average
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
5 ชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีโอกาสเปลี่ยนบ่อยที่สุด
Thu, 18 Aug 22, 16:49 (แก้ไขล่าสุด: Thu, 18 Aug 22 18:03 โดย cotactic2021.)
Post: #1
5 ชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีโอกาสเปลี่ยนบ่อยที่สุด
[Image: HNBsjA]
อาจเรียกได้ว่าทุกครั้งที่เราสตาร์ทรถ อายุการใช้งานของอะไหล่และชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็กำลังถดถอยลดน้อยลงทีละน้อย ซึ่งเมื่อมีการใช้งานไปนาน ๆ ก็เป็นเรื่องปกติที่จะมีบางชิ้นส่วนเกิดการขัดข้อง มีปัญหา และต้องได้รับการดูแลแก้ไข โดยจะมีชิ้นส่วนใดที่เราต้องระมัดระวังและใส่ใจเป็นพิเศษบ้างนั้น ไปดูพร้อม ๆ กันเลยครับ

1.น้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องมีหน้าที่ในการหล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์ ถือเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเครื่องยนต์ที่ขาดไม่ได้ ดังนั้นเจ้าของรถจำเป็นต้องใส่ใจและให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนดเวลา โดยมีระยะเวลาในการเปลี่ยนทุก ๆ 5,000-10,000 กิโลเมตร ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทน้ำมันเครื่องที่คุณใช้ และสามารถเปลี่ยนล่วงหน้าได้หากพบว่าน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพกลายเป็นสีดำ

2.ผ้าเบรก

ผ้าเบรกเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ส่งผลถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่ มีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 50,000-70,000 กิโลเมตร โดยสัญญาณเตือนของผ้าเบรกที่เสื่อมสภาพนั้น มักจะมาเป็นเสียงดังเอี๊ยด ๆ ขณะเหยียบเบรก ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไปอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายที่จานเบรกได้

3.ไส้กรองอากาศ

ไส้กรองอากาศจะทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรกในอากาศก่อนที่จะเข้าไปในตัวรถ มันจึงเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่เราต้องเปลี่ยนเป็นประจำทุกปี มันเลยมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 20,000 กิโลเมตร แต่เราก็ควรทำความสะอาดในทุก ๆ 3,000-5,000 กิโลเมตร เพื่อหลีกเลี่ยงการอุดตันที่จะทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งมันจะส่งผลให้เครื่องยนต์มีกำลังที่ลดลง ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

4.ใบปัดน้ำฝน

เราทราบกันดีว่าสภาพอากาศในประเทศไทยนั้นมีความไม่แน่นอนมากแค่ไหน จึงเป็นเรื่องปกติที่ใบปัดน้ำฝนจะมีอายุการใช้งานที่สั้น เพราะมันถูกเปิดใช้แทบจะตลอดเวลา เราจึงควรเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนหากพบว่ามันเสื่อมสภาพ อย่าปล่อยปละละเลยฝืนใช้งานต่อ หากที่ปัดน้ำฝนไม่สามารถรีดเอาน้ำออกจากกระจกได้เหมือนเก่า มันก็จะทำให้ทัศนวิสัยของคุณแย่จนอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้

5.แบตเตอรี่

แบตเตอรี่นั้นมีอายุการใช้งานปกติอยู่ที่ประมาณ 2-3 ปี แต่มันจะสั้นและเสื่อมไวขึ้นมากหากคุณจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน เพราะตัวแบตเตอรี่จะคลายประจุไฟตลอดเวลาในช่วงที่เราไม่ได้ขับ ซึ่งถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบแก้ไข แบตเตอรี่จะเริ่มอ่อนลงเรื่อย ๆ จนตัวแบตเสื่อมในที่สุด แบตเตอรี่จึงถือเป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนรถยนต์ ที่มีโอกาสเปลี่ยนบ่อยที่สุดหากเทียบกับชิ้นส่วนอื่น ๆ นั่นเอง

ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหารถสตาร์ทไม่ติดจากอาการแบตเตอรี่เสื่อม การใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่คอยชาร์จไฟทุกครั้งที่มีการจอดนานจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เลือกใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ CTEK MXS 5.0 เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่ขายดีที่สุดในท้องตลาด เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศสวีเดน ใช้งานง่าย ปลอดภัย ไม่ต้องมีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ในทันที มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย เป็นมิตรกับระบบไฟฟ้าภายในตัวรถอย่างแน่นอน

พิเศษ! สั่งซื้อตอนนี้รับโปรโมชันราคาพิเศษทันที >>ดูรายละเอียดเครื่องชาร์จคลิกที่นี่<<

ขอบคุณข้อมูลจาก
chi.co.th
ค้นหาข้อความทั้งหมดของสมาชิกท่านนี้
อ้างถึงข้อความนี้ในการตอบกระทู้
ตอบกระทู้ 


** ข้อแตกต่างระหว่างการตอบกระทู้โดยใช้กล่อง comment ของ Facebook กับกล่องตอบข้อความของทางเว็บ


ไปยังหัวข้อ:


ผู้ที่กำลังดูกระทู้นี้: 2 ผู้เยี่ยมชม