รวมข้อมูลพัฒนาการ 4 ด้านของทารกแรกเกิด หนึ่งในเรื่องสำคัญที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม
เมื่อลูกน้อยเกิดมา มีเรื่องมากมายที่คุณแม่ต้องใส่ใจ และหนึ่งในเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เลยนั่นก็คือเรื่องพัฒนาการตามช่วงวัย ซึ่งสำหรับคุณแม่หลายคน ถึงกับเตรียมตัวเรื่องนี้ตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์เพื่อให้ลูกเกิดมามีพัฒนาการอย่างดีที่สุด และสำหรับคุณแม่มือใหม่รวมถึงคุณแม่ที่ยังสงสัยเรื่องพัฒนาการของลูกน้อยในช่วงทารกแรกเกิดจนถึง 1 ปี วันนี้เราได้สรุปมาให้แล้วโดยผ่านพัฒนาการ 4 ด้านสำคัญ พร้อมกับการแนะนำ แอพเอไลฟ์ (ALive Power by AIA)
แอพตั้งครรภ์ตัวช่วยดี ๆ สำหรับคุณแม่ทุกท่าน เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปดูพัฒนาการทีละด้านของลูก ๆ กันดีกว่า!
1. ด้านสติปัญญาและการเรียนรู้
ช่วงแรกที่ลูกน้อยเกิดมา (โดยเฉพาะในสัปดาห์แรก) เวลาส่วนใหญ่จะใช้ไปกับการพักผ่อน ซึ่งถ้าเปรียบเทียบง่าย ๆ ก็เหมือนกับเป็นการสร้างพลังให้พร้อมกับการพัฒนาด้านสติปัญญาที่จะเกิดขึ้นอย่างเต็มที่นับจากนี้ สิ่งแรกที่ลูกจะได้เรียนรู้ก็คือสัมผัสจากแม่ มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่านแนะนำว่าหากต้องการการพัฒนาด้านนี้อย่างเต็มที่ ควรเริ่มตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์มารดา
เมื่อเข้าสู่ช่วง 1-3 เดือน เด็กจะเริ่มมีปฏิกิริยาต่อสิ่งรอบตัว เช่น มองการเคลื่อนที่ของสิ่งของจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่ง เรียนรู้ที่จะสนองตอบต่อเสียงต่าง ๆ รอบตัว จะเริ่มใช้มือสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ มากขึ้น เมื่อเข้าสู่วัย 4-6 เดือน ก็จะเรียนรู้เรื่องความแตกต่าง (เช่น แยกใบหน้าของคนที่พบเจอ และเริ่มจำคนในครอบครัวได้) หลังจากนี้เด็กจะเริ่มสนใจสิ่งรอบตัวมากขึ้น โดยไม่ได้สนใจแค่เสียงที่ผ่านเข้ามาเท่านั้น แต่จะเริ่มเล่นกับสิ่งของรอบตัวมากขึ้น
2. ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว
ในช่วงเดือนแรก ทารกแรกเกิดจะเคลื่อนไหวไม่ได้มากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นการขยับแขนขา แต่เมื่อเข้าช่วงวัย 1-3 เดือน จะเริ่มนอนคว่ำและชันตัวขึ้นมาได้ นี่คือพัฒนาการทรงตัวในระดับแรก จากนั้นเมื่อเข้าสู่ช่วง 6 เดือน เด็กจะเริ่มคลาน ทำให้ได้สำรวจสิ่งรอบตัวมากขึ้น ในที่สุดเมื่ออายุครบ 1 ปี ส่วนใหญ่เด็กก็จะสามารถยืนและก้าวเดินก้าวแรกได้สำเร็จ
3. ด้านภาษาและการสื่อสาร
พัฒนาการด้านนี้สรุปง่าย ๆ คือเริ่มต้นจากการใช้เสียงร้องสื่อให้พ่อแม่รู้ว่าเขากำลังหิวหรือต้องการความสนใจ จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป จะเริ่มออกเสียงอื่น ๆ ได้บ้าง ต่อด้วยการพูดคำสั้น ๆ ที่ได้ยินบ่อย ๆ ซึ่งผู้คนรอบตัวถือว่ามีความสำคัญมากในด้านนี้ เพราะลูกจะเลียนแบบภาษาที่ได้ยินจากคนใกล้ชิด (เช่น พ่อแม่) เมื่ออายุครบ 1 ปี ลูกก็จะเริ่มพูดคำง่าย ๆ ได้มากขึ้น
4. ด้านอารมณ์และสังคม
พัฒนาการด้านนี้ เริ่มจากความรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่กับแม่ จากนั้นก็จะค่อย ๆ พัฒนาขึ้นโดยผสมผสานเข้ากับพัฒนาการด้านการเรียนรู้ เด็กจะเริ่มเรียนรู้ทำความรู้จักผู้คนรอบตัว เริ่มรู้จักการแสดงอารมณ์ โดยในตอนแรกเป็นไปเพื่อให้พ่อแม่สนใจและให้ในสิ่งที่เขาต้องการ แต่ต่อมาก็จะรู้จักอารมณ์ด้านอื่น ๆ เช่น ความวิตกเมื่อพบคนแปลกหน้า รวมถึงแสดงออกได้มากขึ้น เช่น ดีใจ หรือเริ่มรู้ว่าทำอะไรจึงได้รับคำชม
ได้รู้ข้อมูลแบบนี้แล้ว หันมาดู alive
แอพสําหรับคนท้องกันบ้างว่าจะช่วยเรื่องพัฒนาการของลูกน้อยได้อย่างไรบ้าง โดยฟีเจอร์เด่น ๆ ของแอพนี้คือพ่อแม่จะได้พูดคุยกับผู้ใช้งานแอพท่านอื่น ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีพ่อแม่คนอื่น ๆ มาใช้งานแอพด้วย จึงเป็นโอกาสดีที่พ่อแม่จะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน นอกจากนี้ในกรณีที่สงสัยว่าลูกมีพัฒนาการผิดปกติหรือไม่ ยังสามารถใช้บริการแอพนี้เพื่อปรึกษาแพทย์แบบตัวต่อตัวได้อีกด้วย นอกจากนี้ภายในแอพยังได้รวบรวมบทความและวิดีโอเกี่ยวกับสุขภาพไว้อย่างมากมาย จึงถือเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับทุกคนในครอบครัว ยิ่งไปกว่านั้นยังมีกิจกรรมไลฟ์สดให้ความรู้ด้านสุขภาพโดยผู้เชี่ยวชาญซึ่งจัดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
จาก
รีวิว แอพ alive ที่เราได้สรุปฟีเจอร์เด่น ๆ มาให้คุณแล้ว หลายคนคงเห็นว่าเป็นแอพที่ดีและควรอย่างยิ่งที่จะมีติดเครื่องสมาร์ทโฟนของคุณไว้ ตัวแอพมีให้บริการทั้งระบบปฏิบัติการไอโอเอสและแอนดรอยด์ โหลดได้ฟรี พร้อมรับสิ่งดี ๆ ที่รออยู่มากมาย ถ้าคุณแม่ยังสงสัยว่า alive
แอพคุยกับหมอดีไหม และจะเป็นประโยชน์จริงหรือไม่ สิ่งที่ทำได้นับจากนี้ก็คือการโหลดมาติดตั้งและลองเข้าไปใช้งาน ซึ่งเราเชื่อว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
ที่มาของข้อมูล:
https://www.aia.co.th/th/Alive.html