ข้อดีของการทำงานเป็นทีม เพื่อให้คนในองค์กรบรรลุเป้าหมายไปด้วยกัน - Printable Version +- ThaiBuddyTrip.com - เว็บคู่หูของคนชอบเที่ยว (http://www.thaibuddytrip.com/forum) +-- Forum: ประสบการณ์อื่นๆ (/forumdisplay.php?fid=1) +--- Forum: พูดคุยทั่วไป (/forumdisplay.php?fid=20) +--- Thread: ข้อดีของการทำงานเป็นทีม เพื่อให้คนในองค์กรบรรลุเป้าหมายไปด้วยกัน (/showthread.php?tid=37778) |
ข้อดีของการทำงานเป็นทีม เพื่อให้คนในองค์กรบรรลุเป้าหมายไปด้วยกัน - Unyana - Mon, 14 Dec 20 21:23 เมื่อพูดถึงหลักของการทำงานที่ดี คำว่า “ทีมเวิร์ค” ก็มักจะปรากฏอยู่ในบทสนทนาด้วยเสมอ หลายองค์กรที่มีวัฒนธรรมการทำงานเป็นทีมก็คงจะทราบถึงข้อดีของสิ่งนี้และพร้อมที่จะถ่ายทอดวิธีการทำงานร่วมกันเป็นทีมให้กับพนักงานผู้เข้ามาเริ่มงานใหม่เสมอ ดังนั้น วันนี้เราจึงขอยกตัวอย่างข้อดีของทีมเวิร์คมาแชร์กันก่อนสัก 5 ข้อ เพื่อเป็นแนวทางให้กับองค์กรต่าง ๆ ที่กำลังสนใจในเรื่องนี้ 1. รู้ศักยภาพของตนเองและคนในทีมดียิ่งขึ้น ก่อนหน้าที่จะเข้ามาร่วมทีมเดียวกัน หลายคนอาจรู้จักแค่หน้าตา ตำแหน่งและลักษณะงานของเพื่อนร่วมงาน แต่เมื่อมาทำงานอยู่ในทีมเดียวกัน ก็จะมีโอกาสได้รู้ถึงศักยภาพของกันและกัน เช่น เพื่อนร่วมงานคนนี้ ภายนอกดูพูดน้อย แต่สามารถเป็นพิธีกรดำเนินงานพิธีการได้เป็นอย่างดี เพื่อนร่วมงานอีกคนดูมีหัวด้านศิลปะ และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ โดยนอกจากเรื่องของศิลปะแล้ว เขายังมีไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ ๆ มาเสนอคนในทีมอยู่บ่อย ๆ ด้วยหรือแม้แต่ตัวคุณเองที่อาจมีความสามารถแฝงอยู่ แต่ยังไม่ได้ถูกนำออกมาใช้ ก็อาจได้มีโอกาสนำออกมาใช้เมื่อทำงานร่วมกันในทีมก็เป็นได้ 2. กระตุ้นพลังการทำงานของคนในทีม การทำงานร่วมกันเป็นทีม ช่วยส่งต่อพลังงานซึ่งกันและกันได้ เชื่อว่าภายในทีม จะต้องมีคนที่มีพลังงานอย่างเหลือเฟือหรือคนที่มีไอเดียสร้างสรรค์ที่สุดอยู่คนหนึ่งแน่นอน ซึ่งบุคลิกลักษณะของคนเหล่านี้จะส่งผลให้เกิดแรงกระตุ้นพลังการทำงานของทุกคนภายในทีม นั่นจึงเป็นคำตอบว่า ทำไมเมื่อทำงานกับทีม เราจึงมักจะรู้สึกมีพลังในการทำงานและรู้สึกกระตือรือร้นมากกว่าการทำงานคนเดียว 3. ช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี ทำงานกันเป็นทีม ไม่ใช่การแข่งขันกันทำงานหรือชิงดีชิงเด่นชิงไหวชิงพริบกันเองภายในองค์กร เพราะถือว่าเป็นการใช้จุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละคน ช่วยผลักดันให้งานบรรลุเป้าหมาย บางทีมยังสามารถช่วยเสริมจุดอ่อนของกันและกันให้แข็งแกร่งขึ้น ด้วยทักษะที่ดีของอีกฝ่าย ดังนั้นบรรยากาศการทำงานจึงมักจะเป็นไปในลักษณะถ้อยทีถ้อยอาศัย เติมเต็มซึ่งกันและกัน โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือ ความสำเร็จของงาน นั่นเอง 4. โอกาสที่งานจะบรรลุเป้าหมายสูงกว่า เป็นการยากที่จะเริ่มงานและจบงานทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบได้ด้วยตัวคนเดียว แน่นอนว่ามีคนเก่งระดับนั้นอยู่ แต่ก็น่าจะมีอยู่เป็นจำนวนน้อยมาก เมื่อต้องการความสำเร็จในลักษณะเดียวกัน แต่ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว การทำงานแบบทีมจึงช่วยเติมเต็มในเรื่องนี้ได้ เมื่อสมาชิกในทีมถนัดกันไปแต่ละอย่าง สามารถแบ่งงานรับผิดชอบได้เป็นสัดส่วนตามความถนัด งานจึงมักสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีและด้วยความที่มีการระดมไอเดียจากทุกคน จึงไม่น่าแปลกใจที่ผลสำเร็จของงาน มักจะออกมาดีกว่าการคิดคนเดียวและทำคนเดียว 5. ฝึกการทำความเข้าใจผู้อื่นและยอมรับในตัวตนของแต่ละคน ความแตกต่างของแต่ละคนคือส่วนเติมเต็มของกันและกันก็จริง แต่ความแตกต่างสามารถสร้างความแตกแยกได้เช่นกันหากเราใช้มันผิดทาง ดังนั้นการทำความเข้าใจผู้อื่นและการยอมรับในตัวตนของผู้อื่น จึงเป็นหลักการทำงานเป็นทีมอีก 1ข้อ ที่จำเป็นจะต้องเรียนรู้ เพราะหากทุกคนในทีมสามารถเข้าใจซึ่งกันและกัน ยอมรับตัวตนของแต่ละคนได้ การทำงานร่วมกันก็จะราบรื่นมากยิ่งขึ้น ยิ่งทำงานร่วมกันต่อไป ก็จะยิ่งมีแนวโน้มที่จะรู้ใจกันจนสามารถบรรลุเป้าหมายของงานได้เกินกว่าที่ตั้งใจไว้ ภายในองค์กรหลายแห่งได้มองเห็นถึงข้อดีเหล่านี้และยังให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันเป็นทีม ตัวอย่างเช่น RS Group ซึ่งแม้ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ แต่ก็ยังให้ความสำคัญกับบรรยากาศของการทำงาน ความสุขของพนักงาน ควบคู่ไปกับผลสำเร็จของงาน ทาง RS Group จึงได้มีการส่งเสริมให้พนักงานทุกคนร่วมกันทำงานเป็นทีม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายไปด้วยกัน หากอยากเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรชั้นนำ สมัครงาน RS ได้ที่นี่ https://www.rs.co.th/th/career/ รู้จักอาร์เอสเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.rs.co.th/th/ รู้จักผู้บริหาร rs ได้ที่นี่ https://www.rs.co.th/th/เปิดตัว-ทีมผู้บริหาร-rs-ให/ |