อัพเดทข่าว: ระบบวัดแรงลมยางอัติโนมัติ - Printable Version +- ThaiBuddyTrip.com - เว็บคู่หูของคนชอบเที่ยว (http://www.thaibuddytrip.com/forum) +-- Forum: ประสบการณ์อื่นๆ (/forumdisplay.php?fid=1) +--- Forum: ยานยนต์ Auto (/forumdisplay.php?fid=9) +--- Thread: อัพเดทข่าว: ระบบวัดแรงลมยางอัติโนมัติ (/showthread.php?tid=1818) |
อัพเดทข่าว: ระบบวัดแรงลมยางอัติโนมัติ - reporter - Wed, 13 Jul 11 13:53 ระบบตรวจวัดแรงดันลมยางมีการบังคับใช้ในหลายประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากสหรัฐอเมริกาที่ปัจจุบันมีกฎหมายบังคับใช้กับรถยนต์ส่วนตัว สหภาพยุโรปเตรียมจะประกาศใช้ระบบวัดแรงดันลมยาง ระยะที่ 1 ในปี 2555 ขณะที่เกาหลีใต้ จะเริ่มบังคับใช้ในปี 2556 ระยะที่ 1 เป็นก้าวแรกที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่ลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิง ส่วนระยะที่ 2 ของยุโรปได้วางแผนไว้เพื่อเป็นหลักประกันเพิ่มเติมว่าแผนแม่บทในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่จะได้รับการปฏิบัติตามมาตรการที่เหมาะสมทั้งหมดที่มี แรงผลักดันในการการออกกฎหมายทั้ง 2 ระยะ คือ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการแสดงสถานะของยางรถยนต์ที่มีระดับแรงดันเหมาะสม ซึ่งหมายถึงความปลอดภัยในการขับขี่ อัตราการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยไอเสียที่ลดลง ซึ่งเป็นข่าวดี แต่ประโยชน์ที่จะตกเป็นของผู้ขับขี่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้เทคโนโลยีการตรวจวัดแรงดันลมยางที่ใช้ ที่เป็นเช่นนี้เพราะสถิติระบุว่า สาเหตุของการที่ยางระเบิดส่วนใหญ่แล้วเป็นผลจากการที่ลมยางอ่อนลงอย่างช้าๆ ทีละน้อยโดยที่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้โดยง่าย แต่สำหรับระบบตรวจับแบบอัติโนมัติจะสามารถตรวจจับแรงดันลมที่ค่อยๆอ่อนลงได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมาก การวัดแรงดันลมยางแบบนี้จะแสดงผลอย่างรวดเร็วเนื่องจากใช้เกณฑ์ที่แคบกว่ามาก การแสดงผลที่แม่นยำของแรงดันลมยางในช่วงเวลาวิกฤติทำให้ผู้ขับขี่ตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที การตัดสินใจอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขสถานการณ์ถูกต้องหมายถึงความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นด้วยเมื่อยางจะพองตัวจนถึงระดับที่เหมาะสมทำให้สามารถควบคุมรถยนต์และลดแรงต้านทานการหมุนของยางให้อยู่ในระดับต่ำ นั่นแปลความหมายได้อย่างตรงตัวว่า เป็นการลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงและยืดอายุการใช้งานของยางได้สูงสุด การวัดแรงดันลมยางแบบอัติโนมัติไดเรกต์เพิ่มศักยภาพให้กับระบบผู้ช่วยคนขับ ระบบวัดแรงดันลมยางแบบ “ไดเรกต์” หรืออัติโนมัติทำงานด้วยเซนเซอร์ตรวจจับที่ติดตั้งภายในยางแต่ละเส้นเพื่อรวบรวมข้อมูลแรงดันอากาศและอุณหภูมิที่สามารถอ่านค่าได้โดยตรง รวดเร็วและแม่นยำ ในทุกช่วงเวลา ทุกสภาพถนน และทุกย่านความเร็ว ส่วนระบบ “อินไดเรกต์” จะไม่ใช่วิธีวัดค่าแรงดันอากาศโดยตรง แต่จะคำนวนโดยอาศัยข้อมูลจากตัวเซนเซอร์ตรวจวัดความเร็วที่ล้อ ซึ่งข้อมูลของคอนติเนนทอลระบุว่า การวัดแบบอินไดเรกต์ไม่สามารถใช้เป็นหลักประกันว่าจะสามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ตามที่คาดหวัง จึงไม่เหมาะสมที่จะเอามาใช้เป็นเครื่องมือในการช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ตามมาตรฐานสหภาพยุโรปได้ [attachment=3252] ระบบวัดแรงดันลมยางอัติโนมัติ สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ และความสะดวกสบายที่มากกว่าเป็น “เพียง” การควบคุมแรงดันลมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เมื่อยางแต่ละเส้นติดตั้งตัวเซนเซอร์แล้ว ข้อมูลการขยายตัวของลมยางจะถูกป้อนผ่านเครือข่ายเข้าสู่ระบบผู้ช่วยคนขับ ตัวเซนเซอร์ในยางจะทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นของคอนติเนนทอลที่เรียกว่า “ฟิลลิง แอสซิสแตนท์” และตัวเซ็นเซอร์สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนของผู้ขับขี่เพื่อรายงานระดับแรงดันลมยางในขณะนั้น โดยไม่ต้องคำนึงถึงความแม่นยำของอุปกรณ์วัดลมยางของสถานีบริการน้ำมันเลย นอกจากนี้ ยางรถยนต์อัจฉริยะรุ่นใหม่ของคอนติเนนทอลยังก้าวล้ำหน้าด้วยการรายงานข้อมูลการบิดเบี้ยวกระทันหันของยางที่กำลังหมุน การทำงานร่วมกันของตัวเซนเซอร์ทำให้สามารถตรวจจับอาการเหินน้ำได้ตั้งแต่ระยะแรก ดร.เบิร์กฮาร์ด วีส์ รองประธานฝ่ายพัฒนายางประจำแผนกรถส่วนตัวและรถบรรทุกเล็กของคอนติเนนทอล กล่าว “การติดตั้งเซนเซอร์ไว้ที่ยางรถยนต์ได้เพิ่มเติมหน้าที่และการทำงานของยางที่มีแรงดันในระดับที่เหมาะสมมาช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ลดแรงต้านทานการหมุนของยาง และช่วยลดไอเสียได้ในระดับที่ไม่เคยทำได้มาก่อน เมื่อพิจารณาถึงคุณสมบัติในการตรวจสอบที่จะมีมากขึ้นในอนาคต เช่น ตรวจจับน้ำหนักกดทับบนล้อแต่ละวงแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป คือ ความปลอดภัยจะเพิ่มมากขึ้น จากการประมวลผลข้อมูลเข้ากับระบบควบคุมยานพาหนะ” คอนติเนนทอลพร้อมจะผลิตยางรถยนต์โดยสารที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ยางดังกล่าวไว้ในยางรถยนต์ในปี 2556 |